ถูกสนใจหนักมากและกลายเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญเหตุการณ์หนึ่งในความทรงจำของคนไทยที่ไม่มีวันลืม สำหรับกรณีเด็กชายอายุ 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงที่สยามพารากอน เมื่อวานนี้ (3 ต.ค.66) ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยหนึ่งในคนบันเทิงที่อยู่ในเหตุการณ์ คือ จิ๊บ ปกฉัตร เทียมชัย และ เอ็ม ผู้จัดการส่วนตัว ที่เจ้าตัวได้ถ่ายคลิประหว่างหนีตายเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์จนกลายเป็นกระแสไวรัล และถูกติติงเป็นจำนวนมาก ถึงวิธีการเอาชีวิตรอดที่ไม่ถูกหลักวิธี ล่าสุดทั้งคู่ได้มาเปิดใจผ่านรายการคุยแซ่บshow แบบจัดเต็ม

จิ๊บ เผยว่า “ก่อนอื่นต้องพูดว่าขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและภาวนาอย่างที่สุดให้ผู้บาดเจ็บตอนนี้รอดปลอดภัย ในฐานะที่เราเจอเหตุการณ์มาเมื่อวานก็อยากโอบกอดทุกคนที่อยู่ร่วมเหตุการณ์กัน ณ บริเวณนั้น เราเข้าใจความแพนิคที่เกิดขึ้น เพราะตอนนี้เราเองก็เป็น ที่วันนี้เรามาออก เพราะจิ๊บอยากมารับผิดชอบ ในฐานะที่คลิปนี้กลายเป็นไวรัล แล้ววิธีการหนีที่เกิดขึ้นในคลิป จิ๊บอยากรับผิดชอบว่าการที่จิ๊บหนีเข้าไปในลิฟต์ ออกไปในรถหรืออะไร ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง ไม่ใช่วิธีการหนีที่ถูกต้อง วันนี้จิ๊บเลยขอใช้พื้นที่รายการนี้ ที่จะบอกทุกคนว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น คุณห้ามทำเลียนแบบทุกอย่างในคลิปนี้ คุณห้ามเข้าไปในลิฟต์ เพราะลิฟต์คือทางตัน เราไม่รู้ว่าเหตุเกิดชั้นไหน เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นไม่รู้ว่ายังไง ก็เขาดูข่าวในทวิตเตอร์แล้วบอกว่าเขายิงกัน ก็คิดว่าเป็นแบบยิงกันเฉยๆ ไม่รู้ว่ามันคือเหตุการณ์อะไร คิดว่าเขาคงตกใจเสียงปืนก็เลยวิ่ง เราก็เริ่มมูฟออนเราไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์จะใกล้ตัว เราก็เลยไม่สนใจว่าทางออกควรอยู่ตรงไหน ทางออกฉุกเฉินอยู่ยังไง เราไม่รู้ว่ามันใกล้ตัว เรางง และไม่มีสติ”

จะบอกว่าอย่าเอาเยี่ยงอย่างนะคะ ถ้าจะหนีห้ามหนีเข้าลิฟต์ สองไม่ควรหนีแล้วไปขึ้นรถ คุณควรหนีจนสุดทางออกจากบริเวณนั้นให้ได้ ไม่ใช่หนีไปขึ้นรถแบบที่เราทำ ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง ตอนนั้นเราทุกคนบริเวณนั้นขาดสติ มันคิดไม่ออก ต้องยอมรับตรงๆ คำว่าสติมันสำคัญมาก ก็ต้องขอบคุณหลายคนที่เตือนตอนหลังมา ว่าการเข้าไปบริเวณลิฟต์เราไม่รู้เขาอยู่ตรงไหน ถ้าเปิดลิฟต์มาแล้วเจอเขาเลยทำไง เราไม่ได้คิดเลยจริงๆ ฉะนั้นอย่าทำเป็นเยี่ยงอย่างนะคะ พอผ่านมาแล้วเราก็คิดได้ ก็ขอรับผิดชอบว่าอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เราควรศึกษาวิธีการหนีอย่างจริงจริง วิ่ง ซ่อน แล้วก็สู้ ถ้าวิ่งได้ก็ให้วิ่ง วิ่งไม่ได้ให้ซ่อน ถ้าซ่อนไม่ได้ต้องสู้”

เอ็ม เผยว่า “ณ ตอนนั้นเราไปทำธุระกันมาก่อน แล้วไปเดินห้างกันมาก่อนที่เอ็มควอเทียร์ แล้วกลับมาห้างนี้ 4 โมงตรงเป๊ะเลย เราจอดรถชั้นเอ็มแล้วเดินขึ้นชั้น 1 พอขึ้นมาชั้น 1 เราก็ตกลงกันว่าจะทานอะไรกันดี จิ๊บบอกว่าไปชั้น 4 แล้วกัน เรากำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อน จังหวะเดินอยู่มีคนวิ่งแล้ว เราก็พูดเล่นกับเพื่อนว่าตามดารา ข้างบนมีงาน เราคิดอย่างนี้ พอขึ้นชั้น 2 เฮ้ย วิ่งเอีกแล้ว จิ๊บ ตามเธอแล้วล่ะ ไม่ใช่หรอก ขึ้นชั้น 3 ก็วิ่งอีก ชั้น 4 ก็วิ่งอีก เราไม่รู้จริงๆ เราก็เดินไปตรงกลางของห้างที่จะมองลงไปว่ามันมีอะไร มองปุ๊บวิ่งทุกชั้นเลย ในทิศทางเดียวกัน ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ดาราแล้ว แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร เราเดินเร็วก่อน แล้วมีพี่ผู้หญิงสองคนเดินมาชนก็เลยถามว่าพี่มันคืออะไร เขายิงกันสามนัด ทีนี้ทั้งเลขา เอ็ม คนทำคอนเทนต์ก็วิ่งกัน แล้วชั้นนั้นไม่มีทางออกไปลานจอดรถ เราได้ยินเสียงปืนตอนที่วิ่งเข้าลิฟต์แล้วเปิดชั้น 1 จะวิ่งเข้ารถ เสียงปืนไล่ตามหลัง เสียงปืนมันก้องมาก มันใกล้หลังเรามาก ทีนี้วิ่งเร็วมากๆ ไม่คิดชีวิตแล้ว ถ้าเห็นในคลิปที่เอ็มวิ่ง มันไม่ได้วิ่งนะ มันถูกผลักจนไหลไปเองหมดแล้ว ทุกคนหนีตายกันหมด”