น.ส.จันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาดและพันธมิตรทางธุรกิจ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลคลายล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้มเมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย.64 ทำให้การบริโภคภายในประเทศกลับมาคึกคักขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภคที่จัดโปรโมชันและกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อจูงใจผู้บริโภคอย่างแคมเปญ 9:9 ซึ่งแกร็บขอเป็นอีกหนึ่งแรงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอยในไตรมาสที่ 4 จึงเปิดตัวแคมเปญใหม่ล่าสุดที่ชื่อ แกร็บฟู้ด สั่งเถิดชาวไทย เพื่อสร้างดีมานด์และยอดขายให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบในช่วงที่ผ่านมา
พร้อมช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้คนไทยด้วยโปรโมชันแบบจัดเต็ม โดยแคมเปญนี้แกร็บฟู้ดยังคงตอกย้ำจุดแข็งในเรื่องความหลากหลายประเภทอาหาร โดยได้ดึงจุดเด่นของอาหารในแต่ละภาคที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นมาให้ผู้ใช้บริการได้เลือกสรร ควบคู่ไปกับบริการที่น่าเชื่อถือโดยการันตีส่งไวภายใน 25 นาที ผ่านกิจกรรมการตลาดเต็มรูปแบบ พร้อมเตรียมผนึกกับ TikTok เพื่อสร้างเอนเกจเมนต์กับผู้บริโภคทั่วประเทศ
ภายใต้แคมเปญแกร็บฟู้ด สั่งเถิดชาวไทย แกร็บชู 3 ไฮไลท์หลัก ได้แก่ ขยายกลุ่มร้านเด็ดสุดอร่อย และโครงการพัฒนาศักยภาพ เพื่อสนับสนุนพาร์ทเนอร์ร้านอาหารต่อเนื่อง โดยแกร็บได้ขยายร้านอาหารในกลุ่ม “#GrabThumbsUp” หรือ ร้านอร่อยยกนิ้ว แนะนำร้านเด็ดสุดอร่อยที่แกร็บอยากบอกต่อ ตั้งแต่ร้านที่ได้รับดาวมิชลินไปจนถึงสตรีทฟู้ดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั้งนี้ยังได้ชูร้านคุ้มฟันธง ร้านอร่อยในราคาประหยัด เพื่อเอาใจผู้บริโภคในยุครัดเข็มขัด หวังสร้างจุดขายและความแตกต่างให้ร้านอาหาร พร้อมช่วยโปรโมตร้านเหล่านี้ เพื่อให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นและเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้า
นอกจากนี้แกร็บยังสนับสนุนพัฒนาศักยภาพให้กับพาร์ทเนอร์ร้านอาหารผ่านโครงการ GrabAcademy แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ที่รวบรวมเทคนิค เคล็ดลับและองค์ความรู้ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาธุรกิจและเสริมสร้างรายได้ ซึ่งในปีนี้แกร็บยังเตรียมจัดงานสัมมนาประจำปีสำหรับพาร์ทเนอร์ร้านอาหารในรูปแบบ Virtual Conference เป็นครั้งแรกภายใต้คอนเซปต์ “GrabFood Next : พลิกวิกฤต เพิ่มโอกาส ก้าวสู่สุดยอดร้านค้าตะหลิวทองคำ” เพื่ออัปเดตเทรนด์ที่เกี่ยวกับร้านอาหารและฟู้ดเดลิเวอรี แนะนำเคล็ดลับต่างๆ ที่ช่วยให้ร้านอาหารตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
รวมทั้งเข้าร่วมและสนับสนุนโครงการคนละครึ่ง โดยแกร็บเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการแพลตฟอร์มที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการคนละครึ่ง ในเฟสที่ 3 เตรียมเปิดให้ประชาชนใช้จ่ายสั่งอาหารผ่านแอพพลิเคชันฟู้ดเดลิเวอรี่ได้ โดยแกร็บปรับลดค่าคอมมิชชันให้พาร์ทเนอร์ร้านอาหารที่ร่วมโครงการฯ ในอัตราไม่เกิน 20% นอกจากนี้ได้เตรียมสิทธิประโยชน์อื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อจูงใจร้านค้า อาทิ ช่วยโปรโมตร้านผ่านสื่อและแอพของแกร็บ เปิดให้เข้าร่วมกิจกรรมการตลาดและโปรโมชั่นต่างๆ เข้าถึงสินเชื่อเงินสดจาก แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ทั้งนี้ ร้านอาหารที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอพถุงเงินได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.-31 ธ.ค.64
จัดเต็มโปรโมชั่นสุดปังเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภค โดยแกร็บเตรียมจัดโปรโมชั่น เพื่อมอบส่วนลดสูงสุดถึง 60% รวมทั้งสิ้นกว่า 20,000 ดีลจากร้านค้าที่เข้าร่วมแคมเปญ อาทิ โปรโมชั่น “เซตอิ่มคุ้ม” ในราคาเดียวที่เริ่มต้นเพียง 69 บาท สำหรับร้านในต่างจังหวัด และ 99 บาท สำหรับร้านในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ยังส่งโปรโมชั่นสำหรับผู้ใช้บริการใหม่ มอบส่วนลดทันที 99 บาท และรับสิทธิส่งฟรีถึง 99 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.-24 ต.ค.64
“กิจกรรมต่างๆ ภายใต้แคมเปญนี้จะเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ พร้อมพัฒนาศักยภาพและเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารในยุคโควิดให้สามารถผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจ GrabForGood ที่มุ่งพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคม โดยเฉพาะในอีโคซิสเต็ม ผ่านการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีและแอพฯ ของเรา” น.ส.จันต์สุดา กล่าว