นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการขนส่งทางรางด้านรถจักรล้อเลื่อนเพื่อพัฒนาไปสู่ระบบไฟฟ้า” กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ผ่านทางออนไลน์ว่า รฟท. มีแผนพัฒนาปรับปรุงระบบรถไฟให้เป็นระบบรถไฟฟ้าครอบคลุมโครงข่ายทางรถไฟทั่วประเทศ รองรับการเดินทางขนส่งผู้โดยสารและสินค้าของประเทศ และกระทรวงคมนาคมมีนโยบายผลักดันการใช้เทคโนโลยีระบบรถไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ เพื่อส่งเสริมพลังงานสะอาด ลดมลพิษในด้านต่างๆ รวมถึงผลักดันการใช้พลังงานของประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับทิศทางของเทคโนโลยีประหยัดพลังงานและลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดมลพิษ
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า รฟท. จึงได้ร่วมกับ สจล. ร่วมกันคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านการขนส่งทางรางด้านรถจักรล้อเลื่อนเพื่อพัฒนาไปสู่ระบบไฟฟ้า และส่งเสริมการใช้วัสดุในประเทศ เพื่อให้มีรูปแบบการบริการใหม่แก่ประชาชน มีวัตถุประสงค์การร่วมมือ ดังนี้ 1. แนวทางการพัฒนาด้านวิศวกรรมในการเปลี่ยนรถจักรดีเซลไฟฟ้าและรถดีเซลราง จากการใช้พลังงานน้ำมันดีเซล ไปสู่ระบบรถจักรไฟฟ้า และรถไฟฟ้า จากพลังงานไฟฟ้ารูปแบบต่าง ๆ เช่น ระบบจ่ายไฟเหนือหัว (Overhead Catenary System) ระบบพลังงานทางเลือกจาก hydrogen fuel cell หรือระบบรถไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ (Electric Vehicle หรือ EV) และการใช้แบตเตอรี่ในระบบขับเคลื่อนของรถไฟ และ 2. แนวทางการพัฒนาด้านวิศวกรรมเกี่ยวกับสถานีจ่ายไฟฟ้า สถานีประจุพลังงานไฟฟ้าของระบบต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่อง
นายนิรุฒ กล่าวอีกว่า การร่วมมือครั้งนี้เพื่อพัฒนาการขนส่งระบบรางของ รฟท. ไปสู่ระบบไฟฟ้าในด้านต่างๆ ดังเช่นหลายๆ ประเทศที่ได้เริ่มมีการพัฒนาระบบไฟฟ้ารูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น อาทิ ญี่ปุ่น อังกฤษ และเยอรมนี ซึ่งได้มีการวิจัยในการนำพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาขับเคลื่อนรถไฟ ซึ่งนอกจากจะเป็นการลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ยังสอดคล้องกับแผนงานและนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในระบบคมนาคมขนส่งให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจให้กับประเทศอีกด้วย
ด้านนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สจล. กล่าวว่า สจล. จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ในฐานะสถาบันการศึกษาที่มุ่งบูรณาการณ์องค์คงวามรู้สู่การพัฒนานวัตกรรมขับเคลื่อนสังคมในหลากหลายมิติ นำโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ ทั้งด้านองค์ความรู้และเทคโนโลยีเพื่อให้การดำเนินโครงการนี้ประสบความสำเร็จ ตามวิสัยทัศน์ของสถาบัน ในฐานะ The World Master of Innovation สู่การขับเคลื่อนด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมระดับโลก ซึ่ง สจล. มีศักยภาพและมีผลงานวิจัยหลากหลายด้าน ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์ทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม โดยจะเห็นได้จาก Asia University Ranking 2021 ที่จัดอันดับโดย Times Higher Education ให้ สจล.ติดอันดับ 1 มหาวิทยาลัยไทยด้านงานวิจัย (Research) ด้าน Industry Income และมีคะแนนรวมเป็นอันดับที่ 5 ของไทยและภูมิภาคอาเซียน ทางด้าน Science and Tech. University ซึ่ง สจล.มีความพร้อมทั้งบุคลากรและทรัพยากรและพร้อมที่ให้ความร่วมมือกับ รฟท.ในการพัฒนาและร่วมขับเคลื่อนเทคโนโลยีด้านการขนส่งทางราง ด้านรถจักรล้อเลื่อนเพื่อพัฒนาไปสู้ระบบไฟฟ้า