เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุย้อนหลังในพื้นที่ของบ้านกำนันนก โดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า ในขั้นตอนของการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมบริเวณจุดเกิดเหตุ จะต้องเก็บข้อมูลในหลายส่วนทั้งพยานแวดล้อมและพยานวัตถุ ซึ่งส่วนนี้ก็จะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ ย้อนหลังไปมากกว่า 3 วัน เพราะมีสาระสำคัญ เพื่อดูพฤติกรรมของบุคคลที่อยู่ในสถานที่ก่อนเกิดเหตุ ว่ามีการเตรียมการ และมีการเตรียมการที่จะก่อเหตุหรือไม่ รวมถึงบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ขณะเกิดเหตุ ได้มีการร่วม พูดคุยหรือพบปะกันในเชิงนัดแนะ

ด้านของ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม เปิดเผยถึงกรณีการแจ้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในมาตรา 157 ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 13 นาย ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีบุคคลใดบ้างจะถูกแจ้งข้อหาดังกล่าว โดยคณะพนักงานสอบสวนได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและสอบสวน ลงพื้นที่ไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในงาน โดยแบ่งชุดสืบสวน 1 ชุด ต่อตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ 1 นาย เพราะต่างคนต่างมีพฤติการณ์ไม่เหมือนกัน จึงจำเป็นต้องจัดให้มีการสอบสวน 1 ชุดต่อ 1 นาย จากนั้นจะนำสำนวนการสอบปากคำมารวบรวมและพิจารณาอีกครั้ง ว่าบุคคลใดมีพฤติการณ์อย่างไร

จากการสอบปากคำไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางรายที่ให้การขัดแย้งกันอยู่ และบางรายยังคงให้การไม่ครบถ้วนทุกประเด็น ซึ่งทีมสืบสวนชุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทีมสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ยังคงสนับสนุนให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นได้ประสานไปทางพนักงานอัยการเกี่ยวกับคดีการทุตจริต และต้องดูข้อมูลการสืบสวน พยานหลักฐานโดยละเอียด

ในส่วนของ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.เบิ้ม ที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แจ้งมาตรา 157 หรือไม่นั้น ตามข้อเท็จจริงจะเห็นว่า กล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาล จะเห็นภาพ ผกก.เบิ้ม ช่วยเหลือ สารวัตรศิว ซึ่งในส่วนนี้เข้าข่ายตกเป็นผู้ต้องหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น ต้องรอคณะพนักงานสอบสวนพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ตามพยานหลักฐาน ในส่วนการแจ้งข้อกล่าวหามาตรา 157 กับตำรวจนายใดบ้างจะทราบความชัดเจนสัปดาห์หน้าแน่นอน

นอกจากนี้ จากการสืบสวนพบว่ามีตำรวจสังกัดสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการรับส่วยสติกเกอร์และรับเงินจากกำนันนก เบื้องต้นมีจำนวน 2 นาย คือ ร.ต.ต.สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์ และ ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร ขณะนี้กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าได้รับเงินจากกำนันนกจริงหรือไม่ และกำลังอยู่ในขั้นตอนขยายผลว่ามีตำรวจรายอื่นที่มีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์ในลักษณะนี้หรือไม่ นอกจากนี้หากมีหลักฐานชัดเจนจากเส้นทางการเงินของกำนันนก ว่าได้จ่ายให้กับตำรวจนายใดบ้าง ก็จะสามารถบ่งชี้ถึงมูลความผิดได้ว่า ตำรวจนายใดที่เข้าข่ายรับผลประโยชน์.