เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.00 น. วานนี้ (17 ก.ย.) ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 161 หมู่ 11 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ หรือ ซอยโรงพักเก่า พบกับ นางกัลยา กันเฝื่อน อายุ 42 ปี เจ้าของบ้าน ได้พาไปดูมิเตอร์น้ำประปา ของการประปานครหลวง สาขาสมุทรปราการ ที่ติดตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้านไม้ชั้นเดียวเนื้อที่ประมาณ 30 ตารางวา หลังถูกเรียกเก็บค่าน้ำประปาแพงผิดปกติ

โดยนางกัลยา เล่าว่า ปกติทุกวันที่ 9 ของเดือน ใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปา จะต้องนำมาส่งให้ไว้ในตู้รับจดหมายหน้าบ้าน แต่เดือนนี้ยังไม่มา จึงสอบถามกับเพื่อนบ้าน ได้รับคำตอบว่าพวกเขาได้กันแล้ว จากนั้นตนจึงเข้าไปดูในแอปพลิเคชันของการประปานครหลวง พบว่าบ้านของตนมีใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปาสูงถึง 2,428 บาท เกินกว่าปกติไปอย่างมาก จากเดิมเคยเสียประมาณ 140-190 บาทต่อเดือนเท่านั้น จึงแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านช่องทางแอปพลิเคชันของการประปานครหลวงไป จากนั้นประมาณ 2 วัน มีเจ้าหน้าที่ของการประปา ติดต่อกลับมาแจ้งว่า ได้ส่งพนักงานเข้ามาตรวจสอบแล้ว ไม่พบสิ่งผิดปกติ ไม่มีท่อน้ำประปารั่วซึม ดังนั้น ขอให้เจ้าของบ้านไปติดต่อที่สำนักงานการประปา ทำเรื่องขอตรวจเช็กมิเตอร์ ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและค่านำมิเตอร์ตัวใหม่มาเปลี่ยนให้ รวมถึงหลังจากการตรวจสอบมิเตอร์แล้ว พบว่าปกติ ตนต้องจ่ายค่าน้ำเป็นจำนวนเงิน 2,428 บาท ตามใบแจ้งหนี้ด้วย

ค่าน้ำจ่ายปกติทุกเดือน

นางกัลยา ระบุต่อว่า โดยหลังจากได้ฟังแล้ว รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถึงขั้นตอนและวิธีการทำงานของการประปาฯ ทำไมไม่อำนวยความสะดวก หรือให้บริการกับประชาชนแบบไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามานำมิเตอร์น้ำไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงและนำมิเตอร์ตัวใหม่มาติดให้ใช้งานก่อน ไม่ใช่จู่ๆ มาตัดน้ำ แล้วอ้างว่าไม่ไปจ่ายค่าน้ำ ซึ่งมั่นใจว่า ครอบครัวตนอาศัยอยู่ 3 คน ซักผ้าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จะใช้น้ำอย่างไร คงไม่ถึง 2,428 บาท อย่างแน่นอน จึงวอนผ่านสื่อไปถึงการประปานครหลวงช่วยตรวจสอบ และขอความเป็นธรรมด้วย ครอบครัวตนหาเช้ากินค่ำ ไม่ได้ร่ำรวย หลังจากเห็นบิลค่าน้ำสูงถึง 2,428 บาทแล้ว พากันเครียดทั้งบ้าน กลัวถูกตัดน้ำ เพิ่มปัญหาซ้ำซ้อนขึ้นไปอีก.