สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ว่าภายหลังจากนายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาค็อบ ผู้นำมาเลเซีย พร้อมแกนนำฝ่ายรัฐบาล และนายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมพันธมิตร ลงนามร่วมกันในข้อตกลงว่าด้วย "การริเริ่มการเปลี่ยนผ่านและการปฏิรูป" เพื่อการันตีเสถียรภาพทางการเมืองของมาเลเซีย ในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของข้อตกลง รวมถึงการให้สมาชิกฝ่ายค้านร่วมเป็นสมาชิกในคณะกรรมาธิการฟื้นฟูประเทศ การลดอายุขั้นต่ำของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จาก 21 ปี ลงมาอยู่ที่ 18 ปี การให้ผู้นำฝ่ายค้านได้รับสวัสดิการเทียบเท่ารัฐมนตรี การจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีให้อยู่ที่สูงสุด 2 สมัย คือไม่เกิน 10 ปี และการป้องกันนักการเมือง "งูเห่า"
ขณะเดียวกัน ผู้นำมาเลเซียจะไม่ยุบสภาผู้แทนราษฎรก่อนเดือน ก.ค. ปีหน้า ด้านฝ่ายค้านจะไม่ลงมติขัดขวางรัฐบาลในวาระสำคัญ โดยเฉพาะแผนงบประมาณประจำปี 2565 ซึ่งจะเข้าสู่การอภิปรายและลงมติภายในเดือน ต.ค.นี้
สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปตามกำหนดการของมาเลเซีย ต้องเกิดขึ้นภายในเดือน ก.ค. 2566 อย่างไรก็ตาม การเมืองภายในมาเลเซียวุ่นวายและขาดเสถียรภาพ นับตั้งแต่พรรคมลายูสามัคคีแห่งชาติ ( อัมโน ) พรรคการเมืองขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของประเทศ "พ่ายแพ้ครั้งประวัติศาสตร์" ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2561 และต้องพ้นจากการผูกขาดการเป็นแกนนำรัฐบาลเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มาเลเซียเป็นเอกราชจากสหราชอาณาจักร เมื่อปี 2500 โดยก่อนหน้าการดำรงตำแหน่งของอิสมาอิล ซาบรี มาเลเซียมีนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 2 คน คือ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด และนายมูห์ยิดดิน ยาสซิน
ทั้งนี้ การขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดทางการเมืองของอิสมาอิล ซาบรี ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานพรรคอัมโน เท่ากับเป็นการหวนคืนสู่อำนาจสูงสุดทางการเมืองของพรรคเก่าแก่ แต่ความเคลื่อนไหวของทุกฝ่ายในพรรคยังต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะสมาชิกระดับสูงหลายคนของพรรคอัมโนยังมี "ชนักติดหลัง" เรื่องการทุจริตในกองทุนพัฒนาแห่งชาติ "วันเอ็มดีบี" โดยเฉพาะอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค.
เครดิตภาพ : AP