เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิทยา ณวิพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรที่ 4 สาขาพิษณุโลก ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทั้ง 11 หน่วย ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมนายอำนาจ พูนยอด ปลัดอาวุโสอำเภอเขาค้อ ทหารจาก ม.พัน 28 ค่ายพ่อขุนผาเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาค้อ เจ้าหน้าที่ อบต.เขาค้อ ประมาณ 100 นาย เข้ารื้อถอนรีสอร์ท “เขาค้อฟรีเดย์” ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภู ต.ริมสีม่วง อ.เขาค้อ เพชรบูรณ์ จำนวน 5 หลัง

หลังจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ดำเนินคดีข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปางก่อและป่าวังชมพู และแจ้งให้เจ้าของรื้อถอน แต่ไม่ยอม กระทั่งมีคำสั่งศาลอาญา คดีที่ 117/2561 คดีถึงที่สุด จึงใช้มาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 เข้าทำการรื้อถอน โดยรีสอร์ทดังกล่าว ไม่ได้อยู่บนที่ดินของ รอส. ที่ทหารขอใช้ประโยชน์แต่อย่างใด

ด้าน นายวิทยา ณวิพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรที่ 4 สาขาพิษณุโลก กล่าวว่า ได้สนธิกำลังป่าไม้รื้อถอนรีสอร์ทเขาค้อฟรีเดย์ จำนวน 5 หลัง วันนี้และวันถัดไปยังมีการรื้อถอนอีก 2 รีสอร์ท (2 คดี) คาดว่าภายในวันที่ 10 ก.ย. นี้ จะรื้อดำเนินการให้แล้วเสร็จ ที่ผ่านมากรมป่าไม้ ให้โอกาสเจ้าของรีสอร์ทรื้อก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่ยินยอมรื้อถอนเอง มีการขอผ่อนผันการรื้อถอนมาเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งสิ้นสุดระยะเวลาแล้ว ดำเนินการไม่แล้วเสร็จ กรมป่าไม้จึงได้เข้าดำเนินการรื้อถอนวันนี้

และหากดำเนินการรื้อถอนเขาค้อฟรีเดย์เสร็จแล้ว กำลังเจ้าหน้าที่ จะดำเนินการรื้อถอนต่อที่พักตากอากาศ “ท๊อปวิว รีสอร์ท” ซึ่งเป็น คดีที่ 2 อาญาที่ 82/2561 บ้านเสลียงแห้ง 3 หมู่ที่ 1 ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ และคิวสุดท้าย คือ ที่พักตากอากาศ “สามชาย รีสอร์ต” ซึ่งเป็นคดีที่ 3 อาญาที่ 107 /2561 ท้องที่บ้านเล่ากี่ หมู่ที่ 5 ตำบลสะเดาะพง อำเภอเขาค้อ เพชรบูรณ์

ส่วนค่าใช้จ่ายในการรื้อนั้น จะต้องเป็นของเจ้าของรีสอร์ท เนื่องจากกรมป่าไม้ได้ให้โอกาสรื้อแล้วแต่ไม่ยอมรื้อถอน ส่วนการรื้อถอนในเขตภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ตามคำสั่ง 35 นั้น เป็นเรื่องของจังหวัดเพชรบูรณ์ ไม่เกี่ยวกันกับการรื้อถอนวันนี้ สำหรับในพื้นที่อำเภอเขาค้อ ยังมีรีสอร์ทอยู่ในขั้นตอนของขบวนการยุติธรรมอีกหลายคดี.