จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ก.ย. สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวคนร้ายย่องเข้าไปลักทรัพย์สิน 3 ครั้งในศูนย์เพื่อนใจ “ทูบีนัมเบอร์วัน” ซึ่งเป็นอดีตห้องทำงานของ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ภายในโรงเรียนบ้านโคกล่าม จ.หนองบัวลำภู เสียหายร่วมเกือบ 3 ล้านบาท ขณะที่ผู้ว่าฯหนองบัวลำภู สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ภายหลังที่สื่อได้เสนอข่าวออกไปทาง พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้สั่งการเร่งด่วนให้ พ.ต.อ.สุมิตร นันสถิตย์ ผกก.สภ.ศรีบุญเรือง พ.ต.ท.ศิริชัย กุลวิทิต รอง ผกก.สส.สภ.ศรีบุญเรือง พ.ต.ท.วิระสันต์ ดวงจำปา สว.สส.สภ.ศรีบุญเรือง นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ศรีบุญเรือง ลงพื้นที่เร่งตามจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยทันที จนสามารถสืบทราบแน่ชัดพบว่า ผู้ที่ก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่

ล่าสุดได้คคุมตัว นายทวี (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี ชาวจ.หนองบัวลำภู ผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนได้แล้ว โดยนายทวี ให้การรับสารภาพว่า ตนเองพร้อมกับนายนรินทร์ (ไม่ทราบนามสกุล) ได้ร่วมกันเข้าไปก่อเหตุลักบานหน้าต่างเหล็กของโรงเรียนบ้านโคกล่ามในเวลากลางวัน หลังจากนั้นก็จะนำไปขายร้านรับซื้อของเก่าโดยก่อเหตุเพียง 3 ครั้งเท่านั้น โดยในแต่ละครั้งตนเองจะเป็นผู้นำเอาหน้าต่างไปขายครั้งละ 5 บาน ซึ่งทางร้านจะรับซื้อเป็นกิโลๆละ 10 บาท เมื่อได้เงินมาในแต่ละครั้งๆละประมาณ 500 กว่าบาท แล้วนำมาแบ่งกัน สำหรับเงินที่หามาได้ตนเองจะนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นอดีตห้องทำงานศูนย์เพื่อนใจ “ทูบีนัมเบอร์วัน”

คนร้ายสุดเหิม! ย่องลักทรัพย์ห้องทำงาน ศูนย์เพื่อนใจ ‘ทูบีนัมเบอร์วัน’ เสียหายเกือบ 3 ล.

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายทวี ไปตรวจปัสสาวะ ผลการตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหานายทวี ในข้อหา”ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในพาทรัพย์ไป โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ฯ หรือ รับของโจร และข้อหาเสพยาเสพติด” ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจะได้เร่งอนุมัติขอหมายจับ นายนรินทร์ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 1 ราย

ขณะที่ นายถิรภพ ศรีจันดี ส.อบต.นากอก กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำเนินการสืบสวน จนสืบทราบแน่ชัดว่าผู้ต้องหาที่ลักขโมยทรัพย์สินในครั้งนี้คือใคร หลังจากนี้ไปตนเองขอวิงวอนหน่วยงานทางการศึกษา ควรมีมาตรการดูแลพร้อมการอยู่เวรยามในเมื่อยังมีทรัพย์สินที่มีค่ายังอยู่ ส่วนสภาพพื้นที่เป็นป่ารกร้างน่าจะเป็นแหล่งมั่วสุมของเยาวชนในพื้นที่ คนในชุมชนชาวบ้านโคกล่ามไม่แล้งน้ำใจ พร้อมที่จะเข้ามาร่วมทำความสะอาดเพื่อให้สามารถมองเห็นพื้นที่และดูแล้วสะอาดหูสะอาดตา ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นป่ารกชัดอย่างในปัจจุบันนี้.