กรณี ตำรวจสอบสวนกลาง-ปปง.-อัยการ ระดมกำลังกว่า 200 นาย เปิดปฏิบัติการใหญ่ค้น 30 จุด บุกจับเครือข่ายธุรกิจสีเทา องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตุ๋นลงทุนคริปโต-โรแมนซ์สแกม-ฟอกเงิน มีการจับกุมนางแบบดัง “กีกี้ แม็กซิม” ด้วย พร้อมยึดทรัพย์ บ้าน-รถหรู มูลค่าเกือบพันล้าน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ค้น30จุด!จับ ‘กีกี้ แม็กซิม’ โยงธุรกิจสีเทาตุ๋นลงทุน ยึดทรัพย์เกือบพันล้าน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ,พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. ,พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. ,พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. และ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พร้อมด้วย ตัวแทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (เอ็มดีอีเอส) ,สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ ”Shut down one billion Hybrid Scam” ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ หลังระดมกำลังกว่า 270 นาย กระจายเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 30 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ,สมุทรปราการ ,ชลบุรี และ จ.อุดรธานี

จากปฏิบัติการดังกล่าวสามารถ จับกุมผู้กระทำผิดได้  9 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.เบียน ฉี อายุ 40 ปี สัญชาติจีน 2.น.ส.ไช่ ผิงเฝย  อายุ 32 ปี สัญชาติจีน 3.น.ส.อัจฉรา เหล่าเกษกรรม อายุ 28 ปี 4.น.ส.จักรีณา ชูขาวศรี หรือกีกี้ แม็กซิม อายุ 28 ปี 5.น.ส.ภัสรา เหล่าเกษกรรม อายุ 26 ปี 6.นายณัฐฐินันท์ เภาชิต อายุ 30 ปี 7.น.ส.สุภาวินี เพ็ชร์เอี่ยม อายุ 32 ปี 8.น.ส.สุมาลี แซ่พุ่ง อายุ 34 ปี และ 9.น.ส.ศิริวรรณ สุทธิวรรณา อายุ 30 ปี พร้อมยึดของกลาง บ้านหรู 17 หลัง ,รถยนต์หรู 12 คัน ,เงินสดกว่า 6 ล้านบาท ,สร้อยคอทองคำกว่า 10 รายการ ,นาฬิกาหรู ,กระเป๋าแบรนด์เนม ,สมุดบัญชีธนาคาร รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติไฮบริดสแกม ตั้งแต่ระดับหัวหน้าเครือข่ายควบคุมสั่งการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปจนถึงคนควบคุมบัญชีม้า ,คนรับจ้างเปิดบัญชีม้า และคนที่ดูแลเรื่องฟอกเงินตามหมายจับ 14 คน ขณะนี้ตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 9 คน ในจำนวนนั้นเป็นชาวจีน 2 คน และคนไทย 7 คน ซึ่งมี น.ส.จักรีณา หรือกี้กี้ แม็กซิม นางแบบสาวเซ็กซี่รวมอยู่ด้วย

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายถูกกลุ่มคนร้าย ใช้เฟซบุ๊กปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดี เข้ามาพูดคุยตีสนิท จนเหยื่อหลงเชื่อก่อนชักชวนให้ร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ผ่านเว็บไซต์ซึ่งเป็นแอปฯที่กลุ่มคนร้ายปลอมขึ้นมาทั้งหมด จนสูญเงินกว่า 13 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุมมาดำเนินคดีโดยเร็ว นอกจากนี้ขบวนการนี้มีบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่งคอยให้คำปรึกษา แต่ตำรวจไม่ได้กังวลเนื่องจากทำงานด้วยความรอบครอบ มีพยานหลักฐานอีกทั้งยังมีสำนักงานอัยการสูงสุด คอยให้คำปรึกษาแนะนำ.