เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.ก้องกฤษฎา กิตติถิระพงษ์ รองผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่า เมื่อมีการโอนเงินเข้าบัญชีคนร้ายแล้ว พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้เจ้าของบัญชีจะต้องมาแสดงตนกับพนักงานสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดนี้หรือไม่ หากไม่สามารถชี้แจงได้ จะถือว่ามีส่วนสนับสนุนหรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจะต้องรับโทษตามกฎหมายนั้น  ไม่ว่าจะเป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือ ข่มขู่ รีดเอาทรัพย์ ฉ้อโกง เป็นปกติธุระ เป็นต้น หากเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด รับโทษ 2/3 ของความผิดฐานนั้น และถ้าพนักงานสอบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้ว พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด เช่น ใช้รับโอนเงินจากผู้กระทำผิดหลายราย หรือ หลายๆครั้ง ถือว่าสนับสนุนการฉ้อโกงประชาชน หรือ ฉ้อโกงเป็นปกติธุระ อันเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมาย พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เจ้าหน้าที่จะสามารถติดตามยึดทรัพย์สินจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดได้

ทั้งนี้ หากพบว่าเจ้าของบัญชีม้า ได้ดำเนินการ โอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา จะถือว่า เป็นผู้กระทำผิดฐานฟอกเงิน ต้องรับโทษทางอาญาเช่นเดียวกับผู้กระทำผิดมูลฐาน เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการทางแพ่ง โดยการยึด อายัด เงิน หรือ ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องดังกล่าวตามกฎหมายฟอกเงินดังกล่าวข้างต้นได้อีกด้วย 

 พ.ต.อ.ก้องกฤษฎา กล่าวอีกว่า หากพบว่าบัญชีดังกล่าว เจ้าของบัญชีเปิดไว้เพื่อให้ผู้อื่นใช้รับเงินที่ได้จากการกระทำผิด เจ้าของบัญชี จะถือว่า เจ้าของบัญชีกระทำผิด ฐานเปิดบัญชีม้า กล่าวคือ ทำการเปิดหรือยอมให้คนอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตร หรือ e-Wallet เพื่อนำไปใช้ในการทุจริตหรือทำผิดกฎหมาย จะมีโทษตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 โดยมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นกรณีที่มีการสอบสวน พบว่ามีการใช้ซิมโทรศัพท์ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนในการกระทำผิดด้วย เป็นการกระทำผิดฐาน เปิดซิมม้า มีอัตราโทษเท่ากัน คือจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้ามีการโฆษณาเพื่อให้มีการซื้อ/ขายบัญชีม้า หรือซิมโทรศัพท์ มีอัตราโทษจำคุก 2-5 ปี ปรับตั้งแต่ 2-5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 สำหรับผู้เปิดบัญชีม้า จึงอาจถูกพิจารณาดำเนินคดีได้ ทั้งการสนับสนุนหรือร่วมในการฉ้อโกงประชาชน หรือ ฉ้อโกงอันเป็นปกติธุระ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และดำเนินคดีฐานเปิดบัญชีม้า หรือ ซิมม้า ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 และหากมีการจำหน่ายจ่ายโอนเงินดังกล่าว ที่ได้จากการกระทำผิด อาจจะเป็นผู้กระทำผิดฐานฟอกเงิน สามารถถูกระงับการทำธุรกรรม ตลอดจน ถูกยึด อายัดเงิน หรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด ตลอดจนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทุกรายการได้ ทั้งนี้เพื่อติดตามเอาเงินหรือทรัพย์สินมาคืนแก่เจ้าของ หรือผู้เสียหายได้ต่อไป

 จึงขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน อย่าได้หลงเปิดบัญชีม้าให้กับผู้กระทำผิด เพราะอัตราโทษสูงมากและอาจถูกตามยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้