จากกรณีที่ “ช้างศึก” ฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดเหรียญเงิน ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ปี 2023 ที่ประเทศกัมพูชา ยังรอเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ซึ่งโดนชะลอไว้เนื่องจากมีเหตุทะเลาะวิวาทในนัดชิงชนะเลิศกับ อินโดนีเซีย ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับในมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ระหว่างวันที่ 23 ก.ย.-9 ต.ค. ยังไม่มีการออกกฎอะไรให้คลอบคลุมถึงเรื่องดังนี้ แต่ได้มีการกำชับกับทุกสมาคมกีฬา ถ้ามีการดำเนินการกระทำใดๆ ที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อประเทศชาติ จะถือว่าไม่เป็นไปตามสิ่งที่คาดหวังไหว ซึ่งต้องรับโทษเหมือนกรณีกับทีมฟุตบอลชาย เมื่อครั้งซีเกมส์ โดยอาจจะต้องตัดเรื่องของเงินรางวัลต่างๆ เป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้อยู่แล้ว

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวด้วยว่า ได้มีการกำชับเชิงนโยบาย ว่าทุกสมาคมกีฬาต้องกลับไปดูแลนักกีฬา หรือเจ้าหน้าที่ตัวเอง ถ้าดูแลไม่ได้ สมาคมกีฬานั้นๆ ต้องรับผิดชอบ ยกตัวอย่างว่าถ้าได้เหรียญทอง แต่มีเรื่องที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ก็จะดูว่าผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้กระทำความผิดเป็นใครบ้าง แต่ที่สำคัญไม่ใช่แค่นักกีฬา สมาคมกีฬาต้องรับผิดชอบด้วย โทษความผิดนั้นต้องดูเหตุการณ์ว่ามีความผิดร้ายแรงเพียงใด แน่นอนว่าหนักสุดคือการไม่ได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ แม้จะได้เหรียญทองก็ตาม

สำหรับกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ มีเกณฑ์มอบเงินรางวัลเอเชี่ยนเกมส์ ให้สำหรับนักกีฬาที่คว้าเหรียญทอง 2 ล้านบาท เหรียญเงิน 1 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 5 แสนบาท