เมื่อวันที่ 28 ส.ค. พ.ต.ท.ธวัชชัย จงยิ่งเจริญ รอง ผกก.ป.สภ.บางกรวย ได้รับแจ้งเหตุทะเละวิวาทภายในคอนโดฯ แห่งหนึ่ง ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.รพีพงศ์ จิตต์บุญธรรม สารวัตรสอบสวน สภ.บางกรวย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.บางกรวย

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 8 ชั้น ที่ตึก 2 ชั้น 4 ที่บริเวณหน้าห้องเลขที่ 47/154 พบรอยเลือดจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีรอยเลือดหยดบนพื้นและตามทางเดิน ภายในห้องพบรอยเลือดบริเวณพื้นห้อง ลากยาวไปจนถึงระเบียงท้ายห้อง และยังกระเด็นไปโดนรถชาวบ้านที่อยู่ด้านล่าง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ นายทินภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกฟันที่ศีรษะ แขน และตามลำตัว จำนวนหลายแห่ง อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ชีพ จึงเร่งนำตัวส่ง รพ.บางกรวย

ส่วนผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวเอาไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายทัตภูมิ เนื่องแก้ว อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.ชาลีนี จอมตุ้ม อายุ 25 ปี และเป็นอดีตภรรยาของ นายทินภัทร นอกจากนี้ยังยึดอาวุธมีดดาบยาวประมาณ 1 เมตร เป็นมีดที่ใช้ก่อเหตุ เอาไว้ได้

สอบถามพยานในที่เกิดเหตุทราบว่า นายทัตภูมิ กับ น.ส.ชาลีนี เป็นสามีภรรยากัน เช่าห้องนี้อยู่ด้วยกัน ส่วนนายทินภัทร ซึ่งเป็นสามีเก่า ขณะเกิดเหตุได้เดินทางมาหา น.ส.ชาลีนี ที่ห้อง คิดว่านายทินภัทร ไม่ทราบว่านายทัตภูมิ ไม่ได้ไปทำงาน จากนั้นได้ยินเสียงทะเลาะเอะอะโวยวาย ตอนแรกตนคิดว่านายทินภัทร เป็นเพื่อนที่มาหากันประจำ เพราะเคยเห็นมาอุ้มเด็กผู้หญิง ซึ่งเป็นลูกสาวของ น.ส.ชาลีนี หยอกล้อกันอยู่บ่อยครั้ง เพิ่งมารู้ว่านายทินภัทร เป็นสามีเก่า

จากการสอบสวน นายทัตภูมิ ผู้ก่อเหตุ ให้การว่า คนเจ็บมายืนโวยวายอยู่ที่หน้าห้อง จากนั้นได้ถีบประตูห้อง ตนไม่ทราบว่าเป็นใคร จึงลุกไปเปิดประตู พบว่าเป็นคนเจ็บ จากนั้นเขาได้ด่าตนสารพัด ซึ่งตนมาทราบว่าเขาเป็นสามีเก่าภรรยาตน ก่อนที่จะปิดประตูเพราะไม่อยากยุ่ง และไปยืนแอบอยู่เพื่อทำให้ใจเย็น แต่ภรรยาตนเดินกลับไปเปิดประตูคุยกับคนเจ็บอีก ทำให้ผลักประตูเข้ามาในห้องจะทำร้ายตน ทำให้ทนไม่ไหว จึงคว้ามีดฟันไปที่หัวก่อน จากนั้นคนเจ็บได้วิ่งไปที่ด้านหลังห้องพัก จะไปหยิบมีดมาฟันตน ตนจึงฟันไปที่แขนเขา ทำให้เขาปล่อยมีด หลังจากนั้นตำรวจได้เข้ามาระงับเหตุ

“ซึ่งตนยอมรับผิด ตนฟันแบบไม่ยั้ง ไม่ได้นับว่ากี่ที กลัวว่าเขาจะมาทำร้าย เพราะในห้องอยู่กัน 3 คน กับภรรยาและลูกสาว ซึ่งภรรยาตนได้พยายามห้าม โดยผลักเขาออกแล้ว แต่เขาจะเข้ามาทำร้ายตนอย่างเดียว” นายทัตภูมิ กล่าว

ด้าน น.ส.ชาลีนี กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก อุ้มลูกสาวหนีออกมา ปกติตนกับสามีเก่ายังมีการติดต่อกันอยู่ วันนี้ตนก็รู้ว่าสามีเก่าจะมา แต่ติดต่อบอกเขาไม่ได้ เพราะว่าสามีใหม่อยู่ห้อง

ขณะที่ พ.ต.ท.ธวัชชัย กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งเหตุ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจเข้าตรวจสอบทันที และสามารถช่วยเหลือคนเจ็บส่ง รพ. ได้ทัน นอกจากนี้ยังพบผู้ก่อเหตุและภรรยา ซึ่งเป็นผู้เช่าห้องอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าได้กระทำจริง เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส โดยใช้อาวุธมีด คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.