เมื่อเวลา 09.32 น. วันที่ 27 ส.ค. เจ้าหน้าที่สายตรวจจักรยานยนต์ สภ.เมืองอุทัยธานี รับแจ้งเหตุหญิงสาวถูกคนร้ายก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำ ขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่ริมถนนสายหน้าโรงพยาบาลอุทัยธานี ใจกลางเมืองอุทัยธานี จึงรีบรุดไปตรวสอบ พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองอุทัยธานี

ที่เกิดเหตุบริเวณถนนรักการดี ตรงทางเข้าถนนซอยวาเลนไทน์ หรือ ถนนสายหน้าโรงพยาบาลอุทัยธานี พบ นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี ยืนอยู่ด้วยความตระหนกตกใจ ก่อนให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เหตุการณ์ ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นไวมาก ตอนนั้นตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 1 กง 5999 อุทัยธานี เพื่อไปส่งลูกเรียนพิเศษ จากนั้นก็ขี่ไปเติมน้ำมันที่ปั๊มแล้วมายังจุดที่เกิดเหตุ จากนั้นก็มีคนร้ายชายได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ คาดว่าน่าจะเป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่น พีซีเอ็กซ์ สีแดงสด ไม่ทราบป้ายทะเบียน โดยได้ขี่มาใกล้ๆ ตน ซึ่งตอนนั้นตนก็คิดว่าจะเลี้ยวไปซอยเดียวกัน ก่อนคนร้ายจะเอื้อมมือมากระชากสร้อยคอทองคำที่ตนสวมใส่น้ำหนัก 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง ออกจากคอไปอย่างแรง จนคอมีรอยช้ำ ก่อนขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือดังกล่าว

ต่อมา นางสาวเอ ได้เข้าแจ้งความไว้กับ ร.ต.ท.สรไกร จักรแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุทัยธานี พร้อมให้ปากคำเพื่อเป็นหลักฐานไว้ พร้อมกับเปิดเผยเพิ่มเติมว่า สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท นั้นมูลค่าประมาณ 64,700 บาท บวกกับพระที่เลียมทองอีก 1 บาท มูลค่าประมาณ 32,350 บาท ส่วนพระเครื่องที่หายไปนั้นมีมูลค่าสูงมาก เพราะเป็นพระเกจิชื่อดังที่นำมาห้อยคอบูชามานานแล้ว ทำให้รวมมูลค่าทรัพย์สินในครั้งนี้จำนวน 1 แสนกว่าบาท ส่วนรูปพรรณสันฐานคนร้ายนั้น จำได้เพียงแค่เป็นผู้ชาย มีรูปร่างอ้วนท้วม ไม่สวมหมวกกันน็อก แต่เห็นใบหน้าไม่ชัดเจน สวมเสื้อสีฟ้าแขนยาว

ด้าน ร.ต.ท.สรไกร กล่าวว่า ขณะนี้ ทางชุดสืบสวน และสายตรวจรถจักรยานยนต์ กำลังเร่งลงพื้นที่สืบสวนติดตามตัวคนร้ายกันอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดที่คาดว่าคนร้ายจะขี่ผ่าน เพื่อที่จะได้เห็นหน้าคนร้ายอย่างชัดเจนขึ้น ซึ่งเบื้องตนตอนนี้ทราบว่า คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางสนามกีฬาจังหวัดอุทัยธานี มุ่งหน้าไปทาง อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อกัน โดยคาดว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีในเร็ววันนี้.