เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 21.00 น. วานนี้ (24 ส.ค.) ร.ต.อ.สมพงศ์ ทองรอด รอง สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยยอด เดินทางไปตรวจสอบเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 9 บ้านควนซาง ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.อิศราพงศ์ จินา ผกก.สภ.ห้วยยอด กำลังตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ห้วยยอด เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างภักดีห้วยยอด และฝ่ายปกครอง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว หลังคาและผนังกั้นด้วยแผ่นสังกะสี บางส่วนกั้นด้วยอิฐ อยู่ติดถนนซอยคอนกรีต ติดกับสวนยางพารา ภายในห้องนอนตัวบ้านพบศพนายอุดม สุขเลื่อง หรือลุงเมี้ยก อายุ 61 ปี อาชีพรับจ้างขับรถแทร็กเตอร์ นอนคว่ำหน้าลำตัวตะแคงเสียชีวิตจมกองเลือดจำนวนมาก อยู่ตรงมุมในห้องนอน มือซ้ายกำอาวุธมีดดาบยาวหัวตัดจำนวน 1 เล่ม นุ่งผ้าขาวม้า 1 ผืน สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ หรือค้อนตราควาย จำนวน 1 นัด กระสุนเจาะเข้าบริเวณคางและลำคอเป็นกลุ่มใหญ่ และมีกระสุนไปทะลุใต้จักแร้ซ้าย ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายกริชษฎา จุ้งลก อายุ 24 ปี อาชีพรับจ้างกรีดยางพารา ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของผู้ตาย ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ถูกฟันด้วยอาวุธมีดเล่มดังกล่าวเข้าที่หลังมือซ้าย เป็นแผลฉกรรจ์ เย็บจำนวน 7 เข็ม ซึ่งได้ถูกนำตัวส่ง รพ.รัษฎาไปก่อนหน้าแล้ว

ต่อมาหลังจากทำแผลที่โรงพยาบาลเสร็จสิ้น ทางตำรวจได้คุมตัวลูกเลี้ยงที่ก่อเหตุมาสอบปากคำ พบที่กางเกงมีคราบเลือดติดอยู่ พร้อมกับรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ และได้บอกจุดทิ้งอาวุธปืน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ทางตำรวจจึงนำส่งพนักงานสอบสวนเป็นของกลาง พบมีปลอกกระสุนใช้งานแล้วจำนวน 1 ปลอกบรรจุอยู่ในรังเพลิง ก่อนเจ้าหน้าที่นำตัวตรวจเก็บเขม่าดินปืนจากมือผู้ต้องหา

นายกริชษฎา ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังเข้านอน แต่ได้ยินแม่พูดว่าพ่อเลี้ยงชักดาบออกมา ก่อนที่ตนจะเห็นพ่อเลี้ยงชักดาบถือออกมาจากห้องนอน ตนจึงได้หยิบอาวุธปืนที่ซุกเอาไว้ใต้หมอนมาถือไว้ และจะเดินออกไปหลังบ้าน แต่ไม่ทันได้เดินออกไป ตนจึงพูดให้พ่อเลี้ยงวางดาบ แต่กลับมาท้าตนให้ยิงเลย ตนก็ยังยืนยันว่าวางเถอะ ตนไม่ยิง แต่พ่อเลี้ยงกลับฟันตน 1 ครั้ง จึงเอามือรับไว้เป็นแผลเหวอะเลือดไหลอาบ หลังจากถูกแล้วตนจึงเดินเข้าไปหา พ่อเลี้ยงก็เดินถอยหลังเข้าห้องนอน ตนจึงได้ไปจับดาบพ่อเลี้ยง แต่พ่อเลี้ยงกลับจะฟันอีกครั้ง พร้อมกับท้าให้ตนยิงอีกครั้ง จึงยิงใส่เข้าไป 1 นัด

นายกริชษฎา ให้การต่ออีกว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อเลี้ยงก็เมาสุราขาวมาจากข้างนอก และเมาแบบนี้เป็นประจำเกือบทุกวัน เมื่อเมาเหล้ากลับมาบ้านก็มักจะมาเอะอะโวยวาย ทุกครั้งตนไม่ได้ตอบโต้อะไร ซึ่งตนก็เพิ่งมาอาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยงได้ประมาณ 5-6 เดือน เพราะเพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดมา

ด้านนางปรีดา จุ้งลก อายุ 57 ปี ภรรยาของนายอุดม แม่ของผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ผู้ก่อเหตุเป็นลูกติดของตน ก่อนเกิดเหตุตนกำลังจะเข้านอนในห้อง สามีกลับมาจากดื่มสุราข้างนอก มาถึงบ้านก็กินข้าว หลังกินเสร็จก็บอกลูกเลี้ยงว่าให้ปิดไฟ โดยที่ในมือถือมีดดาบอยู่ด้วย ต่อมาสามีก็เข้าไปในห้อง ตนก็ได้ห้ามว่าอย่าถือดาบ เอามาให้ตน แต่สามีก็ไม่ให้ สามีก็เลยฟันลูกเลี้ยง ตนก็นั่งกอดขาสามีวอนว่าอย่าทำ โน้นก็ลูกนี่ก็แฟน แต่ปรากฏว่ามีเลือดไหลมาใส่ตัวตน ก็นึกว่าสามีฟันตน แต่ลูกกลับบอกว่าฟันลูกแล้ว สามียังกลับพูดอีกว่าจะฟันให้ตาย ลูกเลี้ยงก็เลยยิงใส่พ่อเลี้ยงทันที ที่ผ่านมาทั้งคู่ทะเลาะมีปากเสียงกันทุกคืนในเรื่องที่เปิดปิดไฟ ที่สามีพยายามให้ลูกเลี้ยงปิดไฟก่อนที่สามีจะนอน และบ่นว่าอย่าเปิดเปลืองไฟ

จากการพลิกแฟ้มประวัติคดีอาญาพบว่า นายกริชษฎา เคยถูกจับดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติด เมื่อปี 2565 โดยจำคุกได้ประมาณ 7 เดือน และพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 65 หรือประมาณ 8 เดือนที่ผ่านมา เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่น และ พ.ร.บ.อาวุธปืน และควบคุมตัวเตรียมส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.