เมื่อวันที่ 19 ส.ค. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ออกแถลงการณ์พรรคไทยภักดี ระบุว่า ดังปรากฏต่อสาธารณะดังคำชี้แจงของพรรครวมไทยสร้างชาติว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยปราศจากเงื่อนไข และแนวทางดังกล่าวก็คงเป็นแนวทางเดียวกันกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมที่จะเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อไทย เช่น พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคชาติไทยพัฒนา นั้น
พรรคไทยภักดี ขอให้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมทบทวนจุดยืนดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เพราะการเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยโดยปราศจากเงื่อนไข อาจเปิดช่องให้เกิดการแก้รัฐธรรมนูญใหม่ทุกหมวด ทุกมาตรา โดย ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งจะนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง ในสังคมไทยยิ่งกว่าการแก้กฎหมายมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลด้วยซ้ำ
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยได้แถลงในวันที่ 2 สิงหาคม 2566 ว่า
- การแก้รัฐธรรมนูญเป็นวาระแห่งชาติ
- การแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเร่งด่วนจะนำเข้า ครม. ในการประชุม ครม. ครั้งแรก
- การแก้รัฐธรรมนูญดำเนินการโดย ส.ส.ร.
- การแก้รัฐธรรมนูญจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเลือก ส.ส.ร.
- แก้รัฐธรรมนูญเสร็จ ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนทันที
ขณะเดียวกัน “ไอลอว์” องค์กร NGO ที่รับเงินต่างชาติกับพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า ได้เริ่มเคลื่อนไหวทั้งในและนอกสภาเพื่อขอทำประชามติ แก้รัฐธรรมนูญโดย ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้ง 100% และแก้รัฐธรรมนูญทุกหมวด ทุกมาตรา
ดังนั้น การแก้รัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยกับการรณรงค์เพื่อแก้รัฐธรรมนูญของพรรคก้าวไกลและเครือข่าย NGO ที่มีต่างชาติหนุนหลัง แม้จะเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระกันแต่สามารถจะบรรจบกันและนำไปสู่เป้าหมายอันเป็นอันตรายได้นั่นคือการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งเป็นเรื่องที่จะนำไปสู่ความแตกแยกของสังคมมากกว่าการเสนอแก้กฎหมายมาตรา 112 และหากทำสำเร็จก็จะอ้างว่าเป็น “มติ” ของประชาชนต้องการให้เป็นเช่นนั้น
พรรคร่วมรัฐบาลเดิมทุกพรรคเคยประกาศจะปกป้องสถาบันหลักของชาติ ทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยไม่ร่วมงานกับพรรคที่จะแก้มาตรา 112 มาแล้วนั้น ย่อมมิอาจร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ ได้ เพราะจะเป็นการร่วมสมยอมให้พรรคเพื่อไทยแก้รัฐธรรมนูญโดย ส.ส.ร. และเปิดช่องให้พรรคก้าวไกล สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ทุกหมวด ทุกมาตรา นำไปสู่การล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และแบ่งแยกประเทศไทย
แต่ต้องกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจนว่า การแก้รัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยต้องไม่แตะต้องหมวด 1 หมวด 2 โดยเด็ดขาด และควรเป็นการแก้ไขรายมาตราที่เห็นว่าเป็นปัญหา เพื่อไม่ให้กลุ่มการเมืองที่ไม่หวังดีและคิดเปลี่ยนแปลง ประกาศล้มล้างสถาบันหลักของชาติ สามารถใช้เป็นช่องทางในการเคลื่อนไหวใดๆ ของตนได้
โปรดพิจารณา ด้วยความรักต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ด้วยความเคารพ