“ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี เดินหน้าสู่เป้าหมายคว้าแชมป์อาเซียน 2023 ในการจัดที่ จ.ระยอง ให้ได้ หลังจากเปิดสนามกลุ่ม A ถล่ม เมียนมา 3-0
“บิ๊กหยิม” ยุทธนา หยิมการุณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ฝ่ายจัดการแข่งขัน กล่าวขอบคุณแฟนบอล ที่มาสร้างบรรยากาศในเกมแรก นักเตะทุกคนก็สู้อย่างเต็มที่สุดความสามารถ ก่อนแข่งพยายามลดความกดดัน โค้ชทราบดีว่า หลายๆ คน ได้รับโอกาสรับใช้ชาติเป็นครั้งแรกย่อมกดดัน แต่เมื่อผ่านเกมแรกไปได้แล้ว เชื่อว่าทุกคนจะคลายความกดดันและจะสามารถทำผลงานได้ดียิ่งขึ้นอีก ส่วนเป้าหมาย แน่นอนว่า จากที่เคยเป็นแชมป์รายการนี้ 1 สมัย เมื่อปี 2005 ถือว่าห่างหายไปนาน และในฐานะเจ้าภาพเอง หวังที่จะคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง จะทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอล สร้างความมั่นใจ เพื่อต่อยอดในรายการชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่จะแข่งขันกันต่อช่วงเดือน ก.ย.
อุปนายกบอลไทย กล่าวด้วยว่า ตนเองในฐานะผู้แทนของสมาคมฯ ติดตามให้กำลังใจ ดูแล สนับสนุน สิ่งต่างๆ ที่ทีมต้องการ เพื่อให้ทุกคนมีความพร้อมที่สุด พยายามสร้างขวัญกำลังใจให้กับทีมงานสตาฟฟ์โค้ช และนักกีฬาทุกคน
ด้าน “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย มองว่า ขุนพลช้างศึกหนุ่ม ต้องทำผลงานให้ออกมาดีกว่าเดิม แม้ยิง เมียนมา ขาดลอยก็ตาม ระบุว่า สิ่งที่ต้องแก้ไขคือเรื่องของความสัมพันธ์ การสนับสนุนกัน เรื่องการตัดสินใจ เกมรับจากแดนหลัง มาแดนกลาง รวมถึงการตัดสินใจของผู้รักษาประตูด้วย ต้องรีบแก้ไขก่อนที่จะเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่านี้ ทุกคนที่เข้ามารวมกันในทัวร์นาเมนต์นี้ มาจากหลายที่ ทุกคนอยากโชว์ฝีมือ พอทำผลงานออกมาได้ดี จะทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งเรื่องของการฝึกซ้อม ความสามารถเฉพาะตัว ส่วนเกมต่อไปกับ บรูไน อาจจะเป็นผู้เล่นอีกชุด เพราะอยากให้ทุกคนได้โชว์ออกมา รวมทั้งต้องหมุนเวียนนักเตะ แต่ยังต้องมีบางคนที่เป็นตัวเดิมจากชุดนี้
สำหรับโปรแกรมอีก 2 เกมของไทย ในรอบแรก วันที่ 19 ส.ค. 66 พบ บรูไน และวันที่ 21 ส.ค. 66 พบ กัมพูชา ทั้ง 2 นัดเตะที่ ระยอง สเตเดี้ยม เวลา 20.00 น. ส่วน รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันที่ สนามกีฬากลางจังหวัดระยอง ในวันที่ 24 และ 26 ส.ค. 66 ทุกนัด จะถ่ายทอดสดทาง True Sports 2 บัตรราคา 100/200/300 บาท ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์.