เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากเด็กหญิงอายุ 14 ปี ชาวพุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ว่ากำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เงินที่หามาได้เตรียมเอาไว้ผ่าตัด ถูกครูมาอ้อนขอยืมเงินไปแล้วเบี้ยวไม่ยอมจ่าย อยากให้เป็นสื่อกลางเรียกร้องความเป็นธรรมกับสื่อ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พุทไธสง เล่าว่า ตนเองใช้เวลาว่างจากการเรียนหนังสือ ไปรับจ้างทั้งซักผ้า รีดผ้า ทำความสะอาดบ้าน วันเสาร์หรืออาทิตย์ จะซื้อเสื้อผ้าไปขายตลาดนัด เพื่อต้องการเก็บเงินไว้เรียนและรักษาตัวเอง เนื่องจากขาพิการ ลักษณะยืนเขย่ง ถ้าจะรักษาต้องผ่าตัดเท่านั้น

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีครูสาวทราบชื่อต่อมาครูเปาะ ที่แม่รู้จัก มาหาแม่ที่บ้าน เท่าที่ทราบ ครูเปาะ อายุ 27 ปี สอนอยู่โรงเรียนใน อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ บอกว่าเดือดร้อน จะมาขอยืมเงินจำนวน 20,000 บาท แต่แม่ไม่มีให้ จึงย้อนมาถามตนว่า “มีไหม” ครูจะยืมแค่ 2 เดือน แล้วจะคืนให้พร้อมจะให้ดอกเบี้ย ตอนแรกไม่อยากให้ เพราะเป็นเงินที่เก็บไว้ หวังจะเอาไปผ่าตัดขาที่พิการมาตั้งแต่เด็ก แต่แม่บอกว่าครูน่าจะคืน เพราะเป็นคนมีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จึงยอมให้ยืมจำนวนเงิน 20,000 บาท เดือนแรกครูเอาดอกเบี้ยมาให้ หลังจากนั้นไม่ยอมจ่ายดอก และเลยเวลานัดที่ตกลงกันไว้ภายใน 2 เดือน พยายามทวงถามหลายครั้งทางไลน์ แต่ครูไม่ยอมคืนให้ จนเวลาล่วงเลยไปหลายเดือน ถึงขั้นต้องไปตามถึงโรงเรียน แต่ก็บ่ายเบี่ยง สุดท้ายบล็อกเฟซ บล็อกไลน์ติดต่อไม่ได้ ตอนนี้ผ่านไปแล้ว 6 เดือน ครูก็เงียบหายไป จึงเป็นที่มาของการออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ

นางสุภาพร อายุ 48 ปี แม่ของน้อง 14 ปี กล่าวว่า ลูกสาวเป็นคนขยันหาเงินเป็นตั้งแต่อายุ 9 ขวบ รับจ้างทำงานทุกชนิด ถ้ามีคนจ้าง สงสารลูกสาวที่อุตส่าห์เอาเงินเก็บให้ครูยืม แต่แล้วกลับไม่ทำตามสัญญา โดยเฉพาะลูกสาว จะต้องใช้เงินจำนวนดังกล่าวไปผ่าตัดขา สาเหตุที่ให้ลูกสาวให้ครูยืม เพราะครูอ้างว่าเดือดร้อนมากไม่มีทางออก จึงยอมให้ลูกสาวให้ยืม

ด้าน ผอ.รร. ที่ครูเปาะทำงานอยู่ กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่อง ได้พยายามให้ครูเปาะ เอาเงินไปคืนให้ ตอนแรกคิดว่าเรียบร้อยแล้ว มารู้อีกที ครูเปาะเอาเงินชำระเด็กเพียง 5,000 เท่านั้น ตอนนี้ได้มีการประชุมหารือกันเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเอาเงินไปชำระที่เหลืออีก 15,000 ภายในวันศุกร์นี้