สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ว่า ผลการออกรางวัลลอตเตอรี่ “เมกะมิลเลียนส์” ของสมาคมลอตเตอรี่มัลติสเตท ในสหรัฐ งวดล่าสุด ซึ่งตอนนี้มีเงินรางวัลสะสมก่อนหักภาษีสูงถึง 1,580 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 55,100.13 ล้านบาท) เนื่องจากจับรางวัลมาแล้ว 31 งวด ยังไม่มีผู้โชคดี มีการจับรางวัลรอบใหม่ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐ โดยเลขที่ออก คือ 13-19-20-32-33 และโกลด์บอลหมายเลข 14


ทั้งนี้ ผลการจับรางวัลปรากฏว่า มีผู้โชคดีเพียงคนเดียว อยู่ที่รัฐฟลอริดา ต้องนำหลักฐานมาติดต่อที่สมาคมลอตเตอรี่ประจำรัฐฟลอริดา ภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันประกาศ เพื่อขอรับเงินรางวัล ซึ่งสามารถเลือกได้ว่า จะรับทั้งหมดภายในคราวเดียว ที่เมื่อหักภาษีตามกฎหมายทั้งระดับรัฐบาลกลางและระดับรัฐแล้ว จะเหลือประมาณ 783 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 27,300.38 ล้านบาท) หรือรับเป็นงวด ซึ่งจะใช้เวลาแบ่งจ่ายนานกว่า 30 ปี


ขณะที่ข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นหลายแห่งของสหรัฐเป็นไปในทางเดียวกัน ว่าแจ๊กพอตงวดนี้สูงสุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์การออกรางวัลลอตเตอรี่ของประเทศ และสูงสุดเฉพาะการออกรางวัลของเมกะมิลเลียนส์ โดยทำลายสถิติ 1,537 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 53,641.30 ล้านบาท) เมื่อปี 2561


อนึ่ง สถิติของเมกะมิลเลียนส์ระบุว่า ผู้โชคดีส่วนใหญ่เลือกรับเงินรางวัลทั้งหมดในคราวเดียว แม้ต้องเผชิญกับอัตราภาษีมหาโหดก็ตาม


ปัจจุบัน ลอตเตอรี่เมกะมิลเลียนส์ สนนราคาใบละ 2 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 69.82 บาท) มีจำหน่ายใน 45 รัฐของสหรัฐ กรุงวอชิงตัน และหมู่เกาะเวอร์จิน โดยจะมีการจับสลากสัปดาห์ละ 2 วัน คือ ทุกวันอังคาร และวันศุกร์.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES