เมื่อวันที่ 8 ส.ค. นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ และพ.อ.กฤตติภูมิ หอมหวล รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่หาเบาะแสไม้พะยูงของกลางหายไปอย่างไร้ร่องรอย หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สถานีเพาะชำกล้าไม้ จ.กาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าไม้พะยูงของกลาง 6-7 ท่อน ปริมาตรประมาณ 4 คิว มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท สูญหายจากสถานที่จัดเก็บไม้ บริเวณลานหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00-19.00 น. ของวันที่ 5 ส.ค.66 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เข้าสอบถามข้อมูลกับนายบรรชา ชัยสีหา ปลัด ทต.อิตื้อ นางสาวอชิรญาณ์ ภูครองนาค รองนายก ทต.อิตื้อ และนายสมพงษ์ ภูครองหิน เลขานุการนายก ทต.อิตื้อ จากนั้นลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดพักไม้ ซึ่งพบเพียงร่องรอยที่ไม้พะยูงของกลางถูกนำมาวาง และพบเพียงเศษแก่นไม้และเปลือกไม้ให้เห็นเป็นหลักฐานเท่านั้น

นางสาวอชิรญาณ์ ภูครองนาค รองนายก ทต.อิตื้อ กล่าวว่า เหตุไม้พะยูงของกลางหายนั้น ตนเพิ่งทราบเมื่อเช้าวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันทำงานวันแรกหลังหยุดยาวช่วงเข้าพรรษา ซึ่งก่อนที่ท่อนไม้พะยูงจะถูกขนย้ายมาวางกองไว้ที่บริเวณลานหน้าเสาธง ภายในสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อนั้น ไม้พะยูงต้นดังกล่าว ซึ่งเดิมอยู่ในพื้นที่ป่าหนองหญ้าม้า สถานีเพาะชำกล้าไม้ จ.กาฬสินธุ์ ในความรับผิดชอบของธนารักษ์พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และอยู่ในเขตพื้นที่ ทต.อิตื้อ โดยถูกคนร้ายลักลอบตัดในคืนวันที่ 25 ก.ค.66 ที่ผ่านมา โดยตัดส่วนลำต้นไปประมาณ 2 เมตร หลังเกิดเหตุทราบเจ้าหน้าที่สถานีเพาะชำกล้าไม้ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.โนนสูงแล้ว

นางสาวอชิรญาณ์ กล่าวอีกว่า จากนั้นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนายก ทต.อิตื้อ พนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ธนารักษ์ ผู้นำชุมชนทุกหมู่บ้าน ได้ร่วมกันตรวจสอบ และมีมติให้ขนย้ายไม้ของกลางส่วนที่เหลือมาเก็บรักษาไว้ที่บริเวณลานหน้าเสาธงภายในสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ ทั้งนี้ เนื่องจากตนมีรถเครนจึงได้รับการประสานจาก นายก ทต.อิตื้อ ให้นำรถเครนมายกไม้ของกลางดังกล่าว มาเก็บรักษาประมาณ 10 วัน โดยกลางคืนจะมีผู้นำชุมชนมาอยู่เฝ้า เพื่อป้องกันเหตุลักขโมย แต่เพิ่งจะมารู้เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ไม้ของกลางสูญหายไป ทั้งนี้ตนทราบแต่เพียงที่มาของไม้ แต่ไม่ทราบที่ไปว่าตอนนี้ไม้ของกลางไปอยู่ไหน

ด้านนายอำนาจ ทองจีน พนักงานราชการ สถานีเพาะชำกล้าไม้ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า คืนเกิดเหตุคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูงนั้นเป็นคืนวันที่ 25 ก.ค.66 ซึ่งมีฝนตกหนัก จึงไม่ได้ยินเสียงผิดปกติอะไรเลย ทั้งนี้จุดที่ไม้พะยูงต้นดังกล่าวถูกตัด ห่างจากที่พักประมาณ 80 เมตร และอยู่ติดถนน ตอนเช้าของวันที่ 26 ก.ค.66 ตนเดินสำรวจพื้นที่จึงได้พบว่าไม้พะยูงลำต้นขนาด 2 คนโอบ ถูกคนร้ายเข้ามาลักลอบตัด และตัดส่วนลำต้นประมาณ 2 เมตรไป เหลือส่วนของลำต้นอีกกว่า 10 เมตร จึงได้แจ้งหน้าหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้ฯ จากนั้นเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.โนนสูง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

นายอำนาจ กล่าวอีกว่า หลังแจ้งความตำรวจก็ได้มีการประสานผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งนายก ทต.อิตื้อ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ธนารักษ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาร่วมตรวจสอบ ก่อนที่จะมีมติตัดไม้พะยูงที่เหลือเป็นท่อนๆ ประมาณ 6-7 ท่อน เพื่อง่ายต่อการขนย้ายมาเก็บไว้ที่สำนักงาน ทต.อิตื้อ ซึ่งถือว่าพ้นหน้าที่ความรับผิดชอบของตนแล้ว ต่อมาวานนี้ วันที่ 7 ส.ค.66 ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าไม้พะยูงของกลางดังกล่าวได้หายจากที่จัดเก็บโดยไม่ทราบสาเหตุ และมีกระแสพูดกันในชุมชนว่าอาจจะเกิดเหตุขโมยไม้ของกลางไป ตนจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.โนนสูงเป็นครั้งที่ 2

อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ทราบว่ากล้องวงจรปิดภายในสำนักงาน ทต.อิตื้อ ไม่ได้ติดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่จะจับภาพบริเวณที่ไม้ของกลางวางอยู่ และกล้องวงจรปิดภายในชุมชนก็ใช้การไม่ได้ ขณะที่นายก ทต.อิตื้อซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ที่ไม้พะยูงหายไปยังไม่เข้าแจ้งความ ถึงขณะนี้จึงไม่มีความคืบหน้าของการติดตามคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูง และไม่ทราบว่าไม้พะยูงจำนวน 6-7 ท่อน ปริมาตร 4 คิว มูลค่าไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท ใครขนย้ายไปและหายไปไหน

ทั้งนี้ จึงเป็นประเด็นร้อนให้นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ และพ.อ.กฤตติภูมิ หอมหวน รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการเจ้าหน้าที่ชุดรวบรวมและตรวจสอบข่าว กอ.รมน.จังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ และสั่งการให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามหาคนรับผิดชอบในกรณีไม้พะยูงของกลางที่ล่องหนจากเทศบาลตำบลอิตื้อในครั้งนี้