เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 22.00 น. วานนี้ (6 ส.ค.) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีชายถูกฟันได้รับบาดเจ็บ ภายในซอยไทยประกัน 2 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.รามาธิบดีสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ นายดาย เซม อายุ 31 ปี นั่งอยู่ริมถนน มีบาดแผลถูกฟันที่ท้ายทอยแผลค่อนข้างลึก และเสียเลือดมาก อาการสาหัส ใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นชายชาวกัมพูชา มีบาดแผลถูกฟันที่คางและแขนซ้าย เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ทะเบียน สทม 140 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ มีเลือดรอบคัน
ภาพจากกล้องวงจรปิดริมถนนในซอยดังกล่าว มุมแรก สามารถจับภาพได้ขณะที่สองหนุ่มชาวกัมพูชาขี่รถจักรยานยนต์หนีสองวัยรุ่นชาวไทย ที่ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามหลังมาติดๆ จนกระทั่งผ่านหน้ากล้อง พ้นรัศมีกล้องตัวแรกไปไม่กี่เมตร พบว่าจากนั้นไม่ถึงนาที กล้องตัวเดียวกันจับภาพชายเสื้อดำซึ่งเป็นชาวกัมพูชาวิ่งหนีมาตามถนน โดยมีคู่กรณีถือมีดยาวประมาณ 1 ฟุต ไล่ฟันตามหลังมาติดๆ ก่อนกล้องอีกมุมจะสามารถจับภาพ ขณะชายชาวกัมพูชากับคู่กรณีกำลังชุลมุนแย่งมีดกัน แต่ถูกคู่กรณีใช้มีดฟันที่ท้ายทอยจนอีกฝ่ายต้องยกมือร้องขอชีวิต จากนั้นชายวัยรุ่นคู่กรณี จึงชักมีดชี้หน้าข่มขู่ ก่อนที่เพื่อนอีกคนที่ขับขี่รถไล่ตามมา จะวนรถกลับมารับชายวัยรุ่นพาหลบหนี ส่วนชายชาวกัมพูชาเสื้อดำ ได้เดินตามถนนย้อนกลับไปหาเพื่อนร่วมชาติ ที่ถูกฟันท้ายทอยนอนแน่นิ่งบนถนน
จากการสอบถาม นายอภิเดช อินทรเฉลิม พ่อค้าใบกระท่อม เล่าว่า เห็นว่าทั้งสองฝ่ายขี่รถไล่กันมาจากด้านในซอย จนมาถึงหน้าร้านรถ อีกฝ่ายใช้มีดฟันคู่กรณีจนรถล้มลง ก่อนที่คนขี่ก็คือคนเสื้อดำ จะวิ่งหนีตายไปถูกฟันซ้ำ
ด้าน นางชนิดา บอกว่า ตนเองลงมาจากห้องพัก ได้ยินเสียงโวยวายอยู่ที่หน้าตึก จึงลงมาดูพบว่ามีคนกำลังฟันกัน โดยคนที่ถือมีดพูดตะโกนใส่ว่า ทีหลังอย่าชี้หน้ามั่ว ตนเองได้ยินแค่นั้นแต่ก็ไม่กล้าออกมาดู จนพบว่าคนฟันหลบหนีเข้าไปในซอยแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ประสานพนักงานสอบสวนเข้าตรวจสอบ และสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ออกติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าเป็นวัยรุ่นภายในซอยดังกล่าว มาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
