จากกรณี นายสุขชัย หิรัญภาพงค์ อายุ 54 ปี รปภ. ใช้อาวุธปืนยิง นายวิชา เพิกชัยภูมิ อายุ 72 ปี พี่เขย และใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกัน ยิงนายพงศ์ธร สงเคราะห์ อายุ 31 ปี เพื่อนร่วมงาน ก่อนจะหลบหนีไปนั้น
ล่า ‘รปภ.’ ปืนโหด บุกยิง ‘พี่เขย-เพื่อนร่วมงาน’ ดับ 2 ศพ ปมขัดแย้งส่วนตัว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ ตึกกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ พ.ต.ท.พัฒนะ สุภศักดิพัฒน์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.ชัยภูมิ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเฉพาะกิจ ทั้งของสืบจังหวัด สืบสวน สภ.บ้านค่าย และสืบสวน สภ.จัตุรัส เข้าประชุมประเมินสถานการณ์ถึงผลการสืบสวน พร้อมนำกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่า คนร้ายรายนี้จะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีหลังก่อเหตุมาประเมินสถานการณ์ ก่อนจะพบว่ามีกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ สามารถจับภาพไว้ได้ หลังคนร้ายก่อเหตุฆ่าพี่เขยที่บ้านพัก ได้ขี่ จยย. หนีผ่านด้านหน้า สภ.บ้านค่าย เมื่อเวลา 23.31 น. ไปอย่างใจเย็น ไปตามถนนสาย 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว ผ่านบริเวณหน้าสถานีตำรวจทางหลวง บ้านลี่ หมู่ 9 ต.ละหาร อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ เมื่อเวลา 23.57 น. ก่อนจะไปใช้ปืนยิงนายพงศ์ธร เพื่อนร่วมงานตายอีกหนึ่งศพ แล้วขี่ จยย. คันดังกล่าว ก่อนจะขี่รถ จยย. ย้อนกลับเข้ามาในพื้นที่ สภ.บ้านค่าย ผ่านกล้องวงจรปิดหน้าตำรวจทางหลวงชัยภูมิ อีกครั้ง ก่อนจะขี่หลบหนีหายไปพร้อมปืนพกสั้นและเงินสดที่เพิ่งเบิกค่าแรงมา คาดว่าคนร้ายยังขี่รถ จยย. วงเวียนอยู่ในพื้นที่ ทั้งในพื้นที่ ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ และในพื้นที่ อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่เขตติดต่อกันและเป็นป่าเขาจำนวนมาก ซึ่งคนร้ายจะใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวอยู่ในป่า และตามกระท่อมตามเรือกสวนไร่นาของชาวบ้าน ในพื้นที่ดังกล่าวแน่นอน
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/07/76087_0-1.jpg)
หลังประชุม พ.ต.ท.พัฒนะ ได้สั่งการกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย แยกย้ายขึ้นรถกระบะนับ 10 คัน ออกเดินทางไปพร้อมเสื้อเกราะ โล่กันกระสุน และอาวุธปืนหนักชนิดต่างๆ เร่งออกไล่ล่า รปภ. ปืนโหดมาดำเนินคดีโดยด่วน ก่อนจะไปก่อเหตุซ้ำอีก ซึ่งหากพบตัว และคนร้ายมีอาวุธปืนติดตัวไปขณะหลบหนี หากไม่ยอมมอบตัว เกิดการต่อสู้ขัดขวางการจับกุม เจ้าหน้าที่คงต้องใช้ยุทธวิธีต่างๆ ตามลำดับขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ และอาจจะถึงขั้นใช้วิธีจับตายคนร้ายรายนี้ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้ญาติๆ ได้เร่งติดต่อขอให้คนร้ายรายนี้มาเข้ามอบตัวเป็นการด่วน.