เมื่อวันที่ 20 ก.ค. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6 ได้ประชุมเร่งรัดสั่งการให้ พ.ต.ต.ปัณณวัชร จิรัฐธรรมฎทธิ์ สว.กก.สส.บก.น.6 หน.ชปส.บก. เข้าจับกุมนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี และนายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาไอซ์ 2 กิโลกรัม เฮโรอีน 1 แผ่น เคตามีน 106 กรัม ยาบ้า 2,000 เม็ด โดยจับกุมได้บริเวณริมถนนบางแค ตรงข้ามหน้าปากซอยบางแค 1 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
ต่อเนื่องขายผลจับกุมนายชวการ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี และนายวินัย (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาไอซ์ จำนวนประมาณ 31 กิโลกรัม ยาบ้า 228,000 เม็ด เฮโรอีน 3 แผ่น เคตามีน 10 กิโลกรัม รถยนต์ปาเจโร่ สีดำ ทะเบียน 7 กช 7936 กรุงเทพมหานคร พร้อมตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีเทา 2 กฌ 8807 กรุงเทพมหานคร ซุกซ่อนยาเสพติดยาไอซ์ 26 กิโลกรัม ได้บริเวณลานจอดรถภายในซอยเทอดไท 77/1 ถนนเทอดไท แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร เครือข่ายยาเสพติดจากทางภาคเหนือ รวมมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท
สืบเนื่องจากชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.6 สืบสวนทราบว่า มีการขายยาเสพติดผ่านทางทวิตเตอร์ จึงได้ปลอมตัวและติดต่อล่อซื้อ ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนบก.น.6 ได้ทำการจับกุมตัวนายเอ และนายสมศักดิ์ พร้อมด้วยของกลางเฮโรอีน หนักรวมถุงประมาณ 14.80 กรัม จับกุมได้ที่ร้านขนส่งพัสดุแห่งหนึ่ง ย่านพุทธมณฑล สาย 3 จากการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 ราย พร้อมของกลางดังกล่าว
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่ารับสารภาพว่ายาเสพติดดังกล่าวได้รับคำสั่งจากผู้ใช้แอปพลิเคชันไลน์ชื่อว่า “หนุมาน 168” เป็นผู้สั่งการให้ไปรับยาเสพติดและนำมาพักไว้บริเวณลานจอดรถภายในซอยเทอดไท 77/1 และนำออกส่งให้กับลูกค้า โดยได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ 5,000-10,000 บาท เงินค่าจ้างที่ได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือ ไอซ์ ,ยาบ้า และเฮโรอีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ (เคตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
