เมื่อวันที่ 19 ก.ค. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ภาพและข้อความเกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ในวันนี้ ระบุว่า ปิดสวิตช์ประชาชน ประชาชนสนใจเรียนรู้การเมืองไทย การโหวตนายกฯ ถามผมทุกวี่ทุกวัน “พิธาจะได้เป็นนายกฯ ไหม?” ให้ลองอ่านดังต่อไปนี้ เพราะขณะนี้การเมืองพลิก เปลี่ยนแปลงทุกวัน แต่เท่าที่นิ่งแล้ว คือ การเลือกตั้งไม่ใช่การตัดสินว่าใครได้เป็นรัฐบาล แม้ได้คะแนนเสียงจากประชาชนมากสุด ยังเป็นฝ่ายค้านได้ ดังนั้นการเลือกตั้งจึงเป็นเพียงพิธีกรรมของคนไทยที่ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียง
การจับมือจัดตั้งพรรคร่วมรัฐบาลของ 8 พรรค เป็นละครที่ถูกบังคับแสดงให้ประชาชนดู ดังนั้นดูได้ แต่อย่าไปหลงเชื่อ ก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านในที่สุด ไม่มีรักแท้ทางการเมือง แต่มือใครยาวสาวได้สาวเอาต่างหาก เพื่อไทยจะขึ้นมาเป็นแกนนำพลิกข้ามขั้ว แม้เสนอให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่หากยังมีก้าวไกลอยู่ ก็ไม่ผ่าน ส.ว. ชีวิตจริงต้องดูกันยาวๆ ไม่ใช่หนังตลก
มีการจัดเตรียมสลับพลิกขั้วรัฐบาลโดยเพื่อไทยเป็นแกนนำ และประสบความสำเร็จ โดยผ่านเสียง ส.ว. ภูมิใจไทยจะได้ร่วมรัฐบาล และได้กระทรวงคมนาคม กับสาธารณสุขเหมือนเดิม ส่วนพลังประชารัฐจะได้มหาดไทย เป็นเรื่องจริงอีกเรื่องที่บอกไปก็คงไม่เชื่อ ก้าวไกลได้ประสบการณ์ว่า การมี ส.ส. ใหม่ และเร็วเกินคาดทำให้การตัดสินใจผิดพลาด ตั้งแต่เรื่อง ม.272 หรือการไปเจรจากับประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา ให้ร่วมรัฐบาล
นายกฯ จะเลือกได้ในรอบ 3 ผ่าน ส.ว. ฉลุย ดูรอบ 2 ก็ทราบแล้ว
การจัดตั้งรัฐบาลจะเสร็จภายในเดือนสิงหาคม แต่หน้าตาไม่ใช่แบบที่ประชาชนส่วนมากต้องการ และเห็นแต่แรกในวันจับมือ 8 พรรคเซ็น MOU ยุบพรรคมีแน่ เป็นแผนต่อเนื่อง เตรียมตั้งพรรคใหม่ไว้รอ ชื่อพรรคอนาคตไกล การเมืองหลายเรื่องคนไม่เชื่อ แต่เวลาจะพิสูจน์ว่ามันเป็นเรื่องจริง อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็นหรือได้ยิน เพราะไม่มีใครพูดความจริงเบื้องหลัง
ตอนนั้นบอกว่าไม่มี “ดีลลับ” มีแต่ “ดีลรัก” แต่ตอนนี้กลายเป็น “ดีลลวง” ไปแล้ว ผมพูดไปไม่มีวัตถุประสงค์เชียร์ หรือทำลายใคร แต่ต้องการให้ประชาชนรู้เท่าทันการเมือง แม้ว่าเบื้องหลังบางอย่างผมจะไม่สามารถพูดได้หมด แต่หากเดาจากสิ่งที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ประชาชนที่ติดตามคงทราบ อย่าไปคิดมาก ประเทศไทยยังอยู่ที่เดิมบนแผนที่โลกไม่ได้ไปไหนครับ