เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 ก.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน กล่าวถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ที่ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ตนไม่แฮปปี้กับประธานสภาคนใหม่ แต่ก็ต้องยอมรับเสียงของสภาที่มีมติเลือกไปแล้ว ส่วนที่ไม่แฮปปี้เพราะนายวันมูหะมัดนอร์ มีประวัติไม่ค่อยสง่างาม โดยเฉพาะมีบุคลากรในพรรคประชาชาติไปเกี่ยวข้องกับการจัดเสวนาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 66 เกี่ยวกับการทำประชามติแบ่งแยกดินแดน ซึ่งทั้งหัวหน้าพรรคและพรรคถูกจับผิดในเรื่องนี้มาโดยตลอด ดังนั้นการที่เข้ามาเป็นประธานฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนตัวก็ยังหวั่นเกรงว่าอาจจะโน้มเอียงไม่เป็นกลางต่อกรณีที่มีขอเสนอเรื่องการแบ่งแยกดินแดน หากมีเรื่องการแบ่งแยกดินแดนขึ้นมาจริง หรือมีการกระทำใดที่จะทำให้ประเทศไทยสูญเสียอำนาจอธิปไตย หรือการปกครองตนเอง การแบ่งแยกดินแดน ซึ่งต้องมีการผ่านกฎหมายต่างๆ นายวันมูหะมัดนอร์ ก็ไม่ควรมีส่วนร่วมพิจารณา โดยถอยออกไปให้รองประธานสภาที่มีความเป็นกลางจริงๆ ทำหน้าที่แทน จึงจะเหมาะสมมากกว่า

วันนอร์ไร้คู่แข่ง! นั่ง ‘ประธานสภา’ คนใหม่ โชว์ 6 วิชั่น

เมื่อถามถึงผู้ที่จะมาทำหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ไม่ว่าจะคนที่เป็นรองคนที่ 1 และ 2 โดยสถานะก็คือตำแหน่งประธานสภา คนที่จะมาดำรงตำแหน่งก็มีความสง่างาม และที่สำคัญต้องมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 500 คน จะเลือกคนที่มาเป็นผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติโดยการเลือกหรือโหวตให้คนที่มีประวัติแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ให้การคุ้มครองสถาบัน ก็ดูจะเป็นการย้อนแย้งในการปฏิบัติหน้าที่ ความสง่างามไม่เกิดขึ้น และที่สำคัญ ณ วันใดวันหนึ่งที่จะต้องมาทำหน้าที่ประธานการประชุม หากประธานสภาติดภารกิจ ก็จะต้องทำหน้าที่ทั้งหมดเทียบเท่าประธานสภา ถ้ารองประธานสภาเป็นคนที่เคยรณรงค์ยกเลิกให้มีการแก้ไข มาตรา 112 จึงไม่ควรนั่งในตำแหน่งนี้ และหากใครโหวตสนับสนุนก็ควรถวายคืนเรื่องเครื่องราชอิสริยากรณ์

“ส.ส. ส่วนใหญ่ครั้งนี้ เป็นหน้าเดิม ที่ล้วนแต่ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ถือว่าเป็นคนที่มีคุณประโยชน์ต่อแผ่นดินในการทำหน้าที่ ส.ส. ตลอดระยะเวลาหลายปี ซึ่งไม่ว่าจะได้รับพระราชทานเครื่องราชชั้นใดก็แล้วแต่ กลับมายกมือเลือกบุคคลที่มีประวัติยกเลิกแก้ไขมาตรา 112 จึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม ถ้าจะยกมือให้ก็ควรแสดงสปิริตขอทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องราชคืน” นายศรีสุวรรณ กล่าวและว่า ในสัปดาห์นี้ ตนจะเดินทางไปสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอรายชื่อคนที่ให้การรับรองรองประธานสภา ว่ามีใครบ้าง และจะพิจารณาอีกครั้งว่าคนที่ยกมือให้และเคยได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เข้าข่ายผิดจริยธรรมหรือไม่ หากเห็นว่าผิด จะยื่นต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบจริยธรรม ส.ส. ดังกล่าวในสัปดาห์ถัดไป

เมื่อถามถึงหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีรัฐสภาเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏภาพถ่ายหมู่ ส.ส. มีบางคนชู 3 นิ้ว นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตนเห็นมี 2 คนที่ชู 3 นิ้ว คิดว่าคนเหล่านี้แสดงพฤติการณ์ที่ไม่บังควร งานนี้เป็นงานรัฐพิธี นับเป็นเกียรติตนเองที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ประชาชนอุตส่าห์ไว้วางใจให้มาทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ แต่กลับมาแสดงพฤติกรรมที่สะท้อนให้เห็นก้นบึ้งหรือแนวคิดของตนเอง ในการชู 3 นิ้วในสถานที่รัฐพิธี คิดว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ไม่เหมาสม และอาจจะเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงด้วยซ้ำไป เรื่องนี้อาจจะนำไปร้อง ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบด้วยเช่นกัน.