จากกรณีที่ได้มีคลิปภาพเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ เป็นภาพเกี่ยวกับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งรุมทำร้ายชกต่อยกระทืบเด็กพิเศษที่บ้านหลังหนึ่ง ในเขต ต.โพธิ์วงศ์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งล่าสุดแม่ของผู้เสียหายได้นำตัวน้องบ็อค ลูกชาย เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่ สภ.ไพร แล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 ก.ค. ที่ สภ.ไพร จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.ลาภ ศรีสำอางค์ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พงศ์ยุทธ์ แก้วคอนรี ผกก.สภ.ไพร พร้อมด้วย พ.ต.ท.นิคม ยุวะบุตร สว.สส. และ พ.ต.ต.ประสาน มณีวรรณ สวป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและชุดปราบปราม เร่งไล่ล่าติดตามจับกุมคนร้ายตามคลิปภาพที่ปรากฏ ซึ่งต่อมาปรากฏว่า เจ้าหน้าที่สามารถไล่ติดตามจับกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้แล้ว 2 คน ประกอบด้วย นายหนำ อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ และ ด.ช.เดย์ อายุ 15 ปี โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักของทั้ง 2 คน จากนั้นได้นำตัวมาพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.ไพร เพื่อทำการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากสอบสวนเบื้องต้น นายหนำ ให้การว่า วันเวลาเกิดเหตุเป็นเวลา 02.00 น. ของคืนวันที่ 30 มิ.ย. ขณะที่พวกตน ประกอบด้วย ด.ช.เดย์ ด.ช.น้ำ ด.ช.บ็อค ผู้เสียหาย ด.ช.ปอนด์ เพื่อนของนายบ็อค ด.ญ.เกด อายุ 15 ปี เพื่อนสาวคนสนิทของ ด.ช.น้ำ และตน ได้พากันมารวมตัวกันอยู่ที่บ้านที่เกิดเหตุ เพื่อเล่นเกมและดื่มน้ำกระท่อม ต่อมาปรากฏว่า ด.ช.บ็อค ได้เดินเข้าไปในห้องนอนภายในบ้านของตนที่ ด.ญ.เกด นอนอยู่ โดยได้เข้าไปนั่งที่หัวเตียง ไปพูดเล่นหยอกล้อก่อกวน ด.ญ.เกด ก่อน ด.ญ.เกด ได้ลุกเดินออกมาเล่าให้ ด.ช.น้ำ และพวกตนทราบเรื่อง ต่อมา ด.ช.บ็อค ได้เดินออกมาจากห้องนอน มาพูดจาก่อกวนพวกตน บอกว่าจะนำเอาปืนมายิงพวกตนทั้งหมด อีกทั้งพูดจาไม่ให้เกียรติพวกตนที่เป็นรุ่นพี่

นายหนำ ให้การต่อว่า ขณะนั้นพวกตนไม่ทราบว่า ด.ช.บ็อค เป็นเด็กพิเศษ พูดจาวกวนตลอด ทำให้พวกตนไม่พอใจ ด.ช.เดย์ จึงลุกขึ้นไปเตะต่อย ด.ช.บ็อค ที่กำลังจะเดินออกไปหลังบ้าน ตนกับ ด.ช.น้ำ จึงได้เข้าไปร่วมกันเตะต่อยด้วย โดยมี ด.ช.ปอนด์ เพื่อนของ ด.ช.บ็อค เป็นคนถ่ายคลิป ก่อนจะนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ไปอย่างกว้างขวาง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกเสียใจมาก จึงกราบขอโทษพ่อแม่ของ ด.ช.บ็อค และขอโทษสังคมที่ได้ก่อเรื่องไม่ดีแบบนี้ขึ้นมา ตนขอรับสารภาพผิดทุกข้อกล่าวหา

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบว่าบ้านที่เกิดเหตุประตูด้านหน้าบ้านปิดสนิท ซึ่งป้าของนายหนำ และเพื่อนบ้านได้นำผู้สื่อข่าว เดินเข้าประตูหลังบ้านที่เปิดอยู่ เมื่อเข้าไปในบ้านพบว่า ภายในบ้านมีหม้อต้มใบกระท่อมตั้งอยู่ ยังมีน้ำกระท่อมเหลืออยู่เล็กน้อย และพบมุมห้องที่ ด.ช.บ็อค ถูกรุมทำร้าย ก่อนที่จะคลานเข้าไปกราบขอโทษนายหนำ ที่นั่งอยู่ใกล้กัน

จากการสอบถาม นายกลั่น อายุ 80 ปี อยู่บ้านติดกับที่เกิดเหตุและเป็นตาของนายหนำ กล่าวว่า เป็นประจำทุกวัน ตนจะเห็นกลุ่มเพื่อนของนายหนำ พากันมามั่วสุมรวมกลุ่มกันดื่มน้ำใบกระท่อม ซึ่งได้ตักเตือนไปว่า ไม่ควรที่จะมั่วสุมกับเพื่อนมาก เพราะว่า อาจจะมีเรื่องไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นได้ โดยนายหนำ เคยนำเอาน้ำกระท่อมมาให้ตนทดลองดื่มด้วย แต่ว่าตนไม่ชอบ เพราะว่ามันหวานมาก ช่วงเกิดเหตุไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด เนื่องจากว่า ตนอายุมากแล้ว สายตามองไม่เห็นด้วย

นางศรี อายุ 57 ปี ป้าของนายหนำ กล่าวว่า พ่อแม่ของนายหนำ แยกทางกัน ทิ้งให้นายหนำ อาศัยอยู่เพียงคนเดียวในบ้าน ส่วนแม่ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ตนจะไปนอนที่นาเพื่อหาอาหารมาให้นายหนำ กับนายกลั่น กินเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากนายหนำ คบเพื่อนมาก ตนเคยเตือนหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เชื่อฟัง ขณะนี้นายหนำกำลังเรียนหนังสือชั้น ม.6 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง แต่ว่าไม่ยอมไปเรียนหนังสือแต่อย่างใด เรื่องที่เกิดขึ้นก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย

ส่วน ด.ช.บ็อค ผู้เสียหาย ร.ต.อ.พิชิต เจ้าคดี ได้นำตัวไปทำการสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการจังหวัดกันทรลักษ์ เพื่อประกอบสำนวนคดี ส่วน ด.ช.น้ำ ผู้ต้องหาอีก 1 คนนั้น ญาติได้ติดต่อมายังพนักงานสอบสวนแล้วว่า จะพามามอบตัวในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.)