เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ จ.พิษณุโลก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อขอบคุณประชาชนชาวพิษณุโลกในการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลชนะใน 2 เขตเลือกตั้ง โดยนายพิธาเดินทางไปสักการะพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมือง พร้อมด้วยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 ในฐานะแคนดิเดตประธานสภา และนายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ ส.ส.พิษณุโลก เขต 5 พรรคก้าวไกล

นายพิธา กล่าวว่า สาเหตุที่เดินทางมายังพิษณุโลกในวันนี้ เนื่องจากเป็นเขตยุทธศาสตร์ของพรรคและต้องรักษาแชมป์ ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นถึง 80% จากการเลือกตั้งปี 62 การมาพิษณุโลกครั้งนี้ เป็นการแสดงความยินดีกับ ส.ส.เขต ที่ชนะเลือกตั้ง ในส่วนของกรณีประธานสภา เชื่อจะจบได้ด้วยดี ส่วนการเดินทางมายัง จ.พิษณุโลก เป็นการเล่นเกมมวลชนหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า เป็นเวลาที่เหมาะสม

“ถ้าไม่มาช่วงนี้มีประชุมสภา แล้วจะเดินทางได้ยาก ตอนนี้ผ่านมา 1 เดือนแล้ว ผมคิดว่าพี่น้องประชาชนรู้สึกว่าไปจังหวัดอื่น พี่น้องพิษณุโลก พี่น้องขอนแก่นก็เลือกตั้งเยอะ ต้องใช้โอกาสนี้ขอโทษพี่น้องประชาชน ถ้าไปดู ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็มีทั้ง 50 กว่าจังหวัดจาก 77 จังหวัด ก็พยายามไปให้ครบทุกจังหวัดพื้นที่ จะได้รับฟังปัญหาไปด้วย เห็นภาพจริงๆ รับฟังปัญหาจริงๆ” นายพิธา กล่าว

นอกจากการเดินทางไปสักการะพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวพิษณุโลก นายพิธายังได้ร่วมในงานสำคัญส่งท้ายเดือนไพรด์ คือการประกวดแมวภายใต้ธีม Happy Cat Happy Pride ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพิษณุโลก โดยมีทั้งแมวไทยและแมวต่างประเทศเข้าร่วมประกวดเพื่อส่งเสริมความหลากหลาย ส่งท้ายเดือน มิ.ย.

ทั้งนี้ในช่วงเย็น นายพิธาจะขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชน เส้นทางเริ่มต้นจากเซ็นทรัลพิษณุโลก ไปบนถนนสิงหวัฒน์ ถนนเอกาทศรถ วงเวียนรถไฟ ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมกับ ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ที่ลานแอโรบิก สวนชมน่าน ส่วนวันที่ 1 ก.ค. นี้ นายพิธา ยังมีกำหนดการลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อขอบคุณประชาชนในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งใน 3 เขตเลือกตั้งด้วย

ทั้งนี้ นายพิธายังให้สัมภาษณ์เรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีการหารือกับพรรคเพื่อไทย ว่าความชัดเจนเรื่องการเจรจากับพรรคเพื่อไทย ยังดีขึ้นเรื่อยๆ และยังเจรจาอยู่ ซึ่งต้องรอวันที่ประชุมและประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยเช้านี้ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้แถลงตามที่ได้พูดคุยกันในพรรค และได้เห็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายเศรษฐา ทวีสิน ของพรรคเพื่อไทยพูด ถ้าอ่านจาก 3 คนนี้ ทุกคนพูดตรงกันว่า การเจรจาเป็นไปได้ด้วยดี ก็คงต้องรอผลการเจรจา  

นายพิธา กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันเมื่อวานที่มีข่าวออกมา ในสถานการณ์แบบนี้ พวกเราต้องฟัง แต่ยังไม่เชื่อ และตนได้เช็กสื่อจากหลายสำนัก ทุกคนเขียนว่าจากแหล่งข่าว ดังนั้นแหล่งข่าวคือใคร เมื่อเห็นปุ๊บ ก็เห็นด้วยกับทางนายชัยธวัช ที่ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อเช้า ไม่เชื่อว่าเพื่อไทยจะมีเงื่อนไขออกมาแบบนั้น และเป็นไปตามที่ นพ.ชลน่าน และนายเศรษฐาพูด มีฉากทัศน์เดียว คือฉากทัศน์ที่เราจะไปต่อด้วยกัน และตนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีตามเจตจำนงของพี่น้องประชาชน 

ส่วนจะมีโอกาสเป็นไปตามที่แหล่งข่าวได้พูดไว้เมื่อวานหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า หากยึดทั้ง 3 ท่าน ก็คือมีอยู่ฉากทัศน์เดียวคือ นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี 

เมื่อถามว่าการเลือกมา จ.พิษณุโลก เพื่อเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนหรือไม่ว่า นายปดิพัทธ์ ต้องได้เป็นประธานสภา นายพิธา กล่าวว่า พรรคได้ยืนยันไปแล้วว่าเมื่อ 2 วันก่อนทางเฟซบุ๊ก ว่านายปดิพัทธ์ เป็นแคนดิเดตประธานสภา ไม่ต้องลงพื้นที่ก็ได้ยืนยันไปแล้ว คงไม่เกี่ยวกัน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า ที่เลือกลงพื้นที่ในวันนี้ และวันพรุ่งนี้ที่ จ.ขอนแก่น เป็นการเล่นเกมมวลชนหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามฉากทัศน์ที่วางไว้ จะปลุกมวลชนหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่เลย เพราะถ้าไม่ลงช่วงนี้ มีประชุมสภาแล้วจะลงพื้นที่ได้ยาก และ 1 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนอาจจะคิดว่าไปจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ พิษณุโลกก็เลือกตั้งได้คะแนนมาเยอะทำไมไม่มา จึงใช้โอกาสนี้ขอโทษประชาชน และถ้าดูบัญชีรายชื่อ ก็จะมี 50 ถึง 60 จังหวัด ที่ได้คะแนน ทั้งนี้จะพยายามไปให้ครบทุกพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาไปด้วย หากเข้าสู่ตำแหน่งจะได้เห็นภาพจริงๆ กระบวนการจริงๆ 

เมื่อถามถึงกรณีมีแหล่งข่าวพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 มีการหารือกันอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นข่าว แต่หากเป็นเรื่องจริง เป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามกับตอนดีเบตว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปไม่ได้ ทั้งฝืนมติของประชาชน และทั้งการบริหารจัดการไม่ได้ด้วย ส่วนที่บอกว่าจะยื้อเวลา หรือจะทำให้สภาแตก หรือมีงูเห่า เชื่อว่าประชาชนคงยอมไม่ได้ จากภาพที่ลงพื้นที่มาโดยตลอด ทุกคนต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้าแล้วจริงๆ และอยากที่จะอยู่ข้างอนาคต 

เมื่อถามถึงเสียง ส.ว. ยังมั่นใจเหมือนเดิมหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า สำหรับเสียง ส.ว. ยังมีความมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ