เป็นเรื่องราวอุทาหรณ์ภัยใกล้ตัว เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Tong Dhaninrath Bhakdeekirakit โพสต์เล่าเหตุการณ์นาทีพาวเวอร์แบงก์ระเบิด พร้อมภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “เตือนภัยพาวเวอร์แบงก์ โคตรอันตรายยาวหน่อย แต่อยากให้ช่วยกันแชร์ออกไป ขอเล่าไว้เป็นอุทาหรณ์ภัยใกล้ตัว! พาวเวอร์แบงค์ระเบิด ทั้งๆ ที่ไม่ได้เสียบชาร์จ เรามีอาชีพเป็นไกด์ ต้องเดินทางบ่อยๆ และมีกำหนดจะบินไปเมียนมา เช้าวันพุธที่ 21 มิ.ย. 66 โดยรอบนี้ ตั้งใจซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ไปฝากผู้ช่วยคนสนิทที่เมียนมา และนี่คือต้นเรื่องทั้งหมด…

ค่ำวันจันทร์ที่ 19 มิ.ย. 66 เราไปซื้อโทรศัพท์มือถือจากร้านขายโทรศัพท์ค่ายใหญ่ค่ายหนึ่ง ที่ห้างซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ โดยทางร้าน มีของแถมมาให้ เป็นหูฟังบลูทูธ ลำโพงบลูทูธ และพาวเวอร์แบงก์ 10,000 mah (มีเครื่องหมาย มอก.) เมื่อเรากลับถึงบ้าน ก็ตามประสาคนซื้อของใหม่มา ก็แกะทุกอย่างเช็ก และได้ลองชาร์ตพาวเวอร์แบงก์ที่ร้านแถมมา และก่อนนอนเราได้ถอดปลั๊กเก็บทุกอย่างใส่ถุงตามเดิม และเอาวางไว้ในกระเป๋าเดินทาง พร้อมกับกระเป๋ากล้องถ่ายรูป อุปกรณ์แต่งตัว และเสื้อผ้า เพื่อเตรียมแพ็กกระเป๋าในวันถัดไป

รุ่งขึ้นวันอังคารที่ 20 มิ.ย. 66 เราลงมาจากห้องนอน ที่อยู่ชั้น 2 เวลา 10.30 น. ประมาณ 11 โมง เริ่มได้กลิ่นไหม้ ตอนแรกก็คิดว่าจากบ้านอื่น สักพักได้ยินเสียงระเบิดดังมาก เหมือนหม้อแปลงระเบิด ก็ตกใจวิ่งออกมาหน้าบ้าน แล้วพี่แถวบ้านตะโกนบอกว่า ควันออกมาจากบ้านเรา! ทีนี้ชุลมุนเลยจ้า วิ่งวุ่นทั่วบ้าน ตอนแรกยังไม่คิดว่ามาจากห้องนอนตัวเอง เพราะมั่นใจว่าไม่ได้เสียบปลั๊กอะไรทิ้งไว้เลย (จนตอนนี้ก็ยังงงว่ามันระเบิดได้ยังไง ห้องก็ไม่ร้อนนะ เพราะเพิ่งปิดแอร์ลงมาจากห้อง)

แต่ควันเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ และออกมาจากห้องนอนเรา แต่อาจจะด้วยแรงระเบิด ทำให้เปิดประตูห้องไม่ได้ จนพี่ รปภ. ต้องเอาค้อนมาทุบเข้าไป เห็นจุดต้นเพลิงคือ กองกระเป๋าเดินทางที่วางไว้กลางห้อง สภาพความเสียหายก็ตามรูปเลย เสียหายค่อนข้างเยอะ โชคดีที่ไฟยังไม่ลามไปที่นอน ยังไม่ลามไปสายไฟต่างๆ แต่ความร้อนคงสูงมาก ขนาดที่หน้ากากแอร์บนผนังอีกฝั่งละลายและด้วยสัญชาตญาณของคนเป็นไกด์ สิ่งแรกที่ควานหา คือ Passport และใช่จ้า Passport ไหม้!

พอเจ้าหน้าที่ควบคุมไฟได้ รีบซ้อนมอเตอร์ไซค์น้องไปทำพาสปอร์ตไปทั้งสภาพกระเซอะกระเซิง มือไม้ดำเขม่าไปหมด ตอนแรก จนท. แจ้งว่า มันทำด่วนไม่ได้ เพราะตอนนั้นจะบ่ายโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่คงเห็นสภาพว่าเราเจออะไรมา เลยใจดีช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ ต้องขอขอบคุณเจ้ราหน้าที่ฝ่ายหนังสือเดินทาง ธัญญะปาร์ค ด้วยนะครับ

คืนวันเกิดเหตุ เราต้องค่อยๆ รื้อของใช้ที่จำเป็นจัดกระเป๋าเพื่อบินไปทำงานที่เมียนมาก่อน นี่ก็เพิ่งได้กลับมาจัดการเรื่องต่างๆ ดำเนินการขั้นตอนเยียวยา ซึ่งก็เป็นไปตามกระบวนการต่อไป โชคดีแค่ไหนแล้ว ที่มันไม่ระเบิดตอนเรานอนและ บุญหัวแค่ไหนแล้ว ที่เรายังไม่ได้พกมันขึ้นเครื่องบินไปอ่ะ บอกตรงๆ ว่าตอนนี้หลอนกับการขึ้นเครื่องบินเลยนะ เพราะเราไม่รู้เลยว่าคนที่โดยสารลำเดียวกับเรา พกพาวเวอร์แบงก์อะไรมาด้วย มันก็ปฏิเสธไม่ได้ในเมื่อทุกคนมีโทรศัพท์ ทุกคนก็ต้องพกพาวเวอร์แบงก์ไปด้วยเวลาเดินทาง แต่ขอวิงวอนเถอะพิจารณากันให้ดีๆ มันคือระเบิดที่เราไม่รู้ได้เลยว่าจะไปซวยที่ใคร”

ขอบคุณข้อมูลและภาพ Tong Dhaninrath Bhakdeekirakit