เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.ตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ ป.ป.ช.ตรัง และคณะเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลคำพิพากษาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 ภายหลังจากเมื่อปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 9 เสียง ชี้มูลความผิด นายเสน่ห์ ทองศักดิ์ นักธุรกิจเจ้าของกิจการโรงงานแปรรูปส่งออกไม้ยางพารา และประธานสโมสรฟุตบอลเมืองตรังยูไนเต็ด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เกี่ยวกับการอนุญาตก่อสร้างอาคารพักอาศัย ขององค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบ โดย สร้างเงื่อนไข บ่ายเบี่ยงไม่ออกใบอนุญาต ในการก่อสร้างอาคารพักอาศัยให้กับประชาชนผู้มาขออนุญาต เมื่อเทียบเคียงกับการขออนุญาตรายอื่น ขององค์การบริหารส่วนตําบลเขากอบ ทำให้ต้องความผิดฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.157

โดยศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 มีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 ปี และปรับ 40,000 บาท

จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน และปรับ 20,000 บาท อีกทั้งไม่ปรากฏว่า จำเลยเคยรับโทษจำคุกมาก่อน พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยของพนักงานคุมประพฤติแล้ว ผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดี กับขอให้ศาลรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลย เพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี จึงให้รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยไว้ 1 ปี โดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ให้ทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา 20 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30

อย่างไรก็ตาม หลังจาก นายเสน่ห์ ทองศักดิ์ ถูกชี้มูลความผิดและได้ถูกศาลพิพากษาคดีแล้ว ตามระเบียบข้อกฎหมายก็ยังระบุไว้ว่า ต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต เช่นเดียวกัน เนื่องจากขาดคุณสมบัติของนักการเมือง จากการถูกพิพากษาคดีจำคุก.