สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ว่าศาลทหารสหรัฐประจำเรือนจำทหารบนอ่าวกวนตานาโม ในคิวบา มีกำหนดการในวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น เบิกตัวนายคาลิด ชีค โมฮัมเหม็ด สัญชาติปากีสถาน พร้อมจำเลยร่วมอีก 4 คน หนึ่งในนั้นคือหลานชายของโมฮัมเหม็ด เข้ารับการไต่สวน ในข้อหาก่อการร้าย จากการเป็นผู้วางแผน ฝึกฝน และจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับการก่อวินาศกรรมในสหรัฐ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544 ความผิดซึ่งบทลงโทษสูงสุด คือการประหารชีวิต
ทั้งนี้ สำนวนฟ้องระบุว่า โมฮัมเหม็ด หรือ "เคเอสเอ็ม" คือ "ผู้วางแผนหลักของการก่อวินาศกรรม 9/11 เป็นหนึ่งในบุคคลใกล้ชิดกับนายโอซามา บิน ลาเดน ผู้ก่อตั้งกลุ่มอัล-กออิดะห์" อย่างไรก็ตาม ทีมทนายฝ่ายจำเลยพยายามแสดงหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่า ชายทั้ง 5 คน "ถูกบังคับให้รับสารภาพ" ด้วยวิธี "ซ้อมทรมาน" รวมถึงการ "วอเทอร์บอร์ดดิง" หรือ "จมน้ำบนบก" ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองกลสง ( ซีไอเอ ) นิยมใช้สอบปากคำผู้ต้องหาก่อการร้าย ตามสถานที่ "คุกลับ" หลายแห่งบนโลก เป็นเวลานาน ระหว่างปี 2545-2549 ส่งผลกระทบอย่างหนัก ต่อสภาพร่างกายและสภาพจิตใจของจำเลย
อนึ่ง โมฮัมเหม็ดและจำเลยร่วมอีก 4 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกวนตานาโม ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2549 และเคยปรากฏตัวต่อศาลเพียงครั้งเดียว เมื่อต้นปี 2562 โดยกำหนดการหลังจากนั้นถูกเลื่อนหลายครั้ง เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำหรับการขึ้นศาลครั้งใหม่ของโมฮัมเหม็ดและจำเลยร่วมอีก 4 คน เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน ก่อนที่สหรัฐจะจัดพิธีรำลึกครบรอบ 20 ปี การก่อการร้ายครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต "ที่เป็นทางการ" อย่างน้อย 2,977 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 25,000 คน ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีคำสั่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานทุกแห่งที่เกี่ยวข้อง กับการตรวจสอบชั้นความลับของเอกสารทั้งหมดที่สำนักงานสอบสวนกลาง ( เอฟบีไอ ) สืบสวนสอบสวนเหตุ 9/11 ต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดซึ่งเข้าเกณฑ์เปิดเผยได้แล้ว "ตลอดระยะเวลา 6 เดือนนับจากนี้".
เครดิตภาพ : AP