สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ว่า พล.ร.ต.จอห์น เมาเกอร์ ผู้บัญชาการภาค 1 ของกองกำลังยามฝั่งสหรัฐ แถลงเกี่ยวกับภารกิจค้นหาเรือดำน้ำ “ไททัน” ซึ่งนำกลุ่มมหาเศรษฐี 5 คน ดำดิ่งลงไปท่องเที่ยวชมซากเรือไททานิก ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก และขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าทีมค้นหาพบชิ้นส่วนบริเวณก้นทะเล ห่างจากส่วนหัวของเรือไททานิกประมาณ 500 เมตร ซึ่งบ่งชี้ว่า “เป็นผลจากการระเบิดอย่างรุนแรง ที่อาจมาจากแรงดันภายนอกห้องโดยสาร กดอัดเข้ากับตัวเรือ”

พล.ร.ต.จอห์น เมาเกอร์ ผู้บัญชาการภาค 1 ของกองกำลังยามฝั่งสหรัฐ แถลงที่เมืองบอสตัน


ทั้งนี้ หน่วยยามฝั่งสหรัฐยังปฏิเสธให้ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการระเบิด ว่าเกิดขึ้นเมื่อใด แต่ยอมรับว่า การเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ที่ระดับความลึกประมาณ 3,800 เมตร ในมหาสมุทรแอตแลนติก “อาจไม่สามารถเกิดขึ้นได้”

สำหรับรายชื่อบุคคลบนเรือดำน้ำไททันทั้ง 5 คน ได้แก่ นายฮามิช ฮาร์ดิง นักธุรกิจพันล้านและนักสำรวจชาวสหราชอาณาจักร ประธานบริษัทด้านอากาศยาน แอ็กชัน เอวิเอชัน นายชาห์ซาดา ดาวูด นักธุรกิจชาวปากีสถาน และนายสุเลมาน ดาวูด บุตรชาย นายปอล อองรี นาโชเลต์ นักสำรวจชาวฝรั่งเศส และนายสต็อกตัน รัช ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท โอเชียนเกต เอ็กซ์เพดิชันส์ เจ้าของเรือดำน้ำไททัน

ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นเรือค้นหา ยังคงปฏิบัติการบริเวณตำแหน่งของซากเรือไททานิก


ขณะที่แหล่งข่าวในกองทัพเรือสหรัฐกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบ “เสียงคล้ายการระเบิด” ภายในเวลาไม่นาน หลังมีการยืนยันว่า เรือดำน้ำไททันขาดการติดต่อกับเรือพี่เลี้ยงบนผิวน้ำ และหน่วยยามฝั่งสหรัฐใช้ข้อมูลนี้ ในการกำหนดขอบเขตการค้นหา


เกี่ยวกับรายงานการพบ “เสียงสะท้อน” ดังเป็นระยะ ในช่วงหนึ่งของการค้นหา พล.ร.ต.เมาเกอร์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบต้นตอที่แน่ชัด ส่วนแหล่งข่าวให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า อาจมาจาก “เรือลำอื่นในบริเวณนั้น”.

เครดิตภาพ : AFP