จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ร้องสื่อให้ช่วยประสานฝ่ายงานเกี่ยวข้อง ตรวจสอบเรื่องของ น.ส.บี (นามสมมุติ) บุตรสาววัย 19 ปี ที่สอบติดคณะเภสัชฯ มหาวิทยาลัยชื่อดังได้ แต่หลังจากไปตรวจร่างกายยัง รพ. แล้วปรากฏว่า แพทย์เจอสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ ทำให้ไม่สามารถออกใบรับรองการตรวจสอบสุขภาพได้ ทั้งที่ น.ส.บี ไม่เคยไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดแต่อย่างใด เหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ น.ส.บี มีสิทธิจะพลาดการเรียนต่อ เนื่องจากต้องไปมอบตัววันที่ 30 พ.ค. 66 เบื้องต้นเชื่อว่า สารเมทแอมเฟตามีน น่าจะมาจากการทานอาหารเสริมผิวขาวยี่ห้อหนึ่งเข้าไป ซึ่งลูกสาวสั่งซื้อมากินจากแอปพลิเคชัน TikTok เพราะไม่เคยกินของยี่ห้ออื่น แต่สุดท้ายได้มีการตรวจปัสสาวะใหม่พบว่า ไม่พบสารเมทแอมเฟตามีนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามล่าสุดทางบริษัทขายอาหารเสริมได้มีการฟ้องร้องทางครอบครัวของนักศึกษาเภสัชฯ โดยเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ครอบครัว นศ.เภสัชฯ ได้รับหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์อีก 1 ฉบับ แต่คราวนี้เป็นความอาญาฟ้อง น.ส.บี นักศึกษาเภสัชฯ เป็นจำเลยที่ 1 ส่วน น.ส.เอ ผู้เป็นแม่เป็นจำเลยที่ 2 ซึ่งในเอกสารจากสารระบุคำฟ้องแพ่ง และความอาญา ฟ้องในวันเดียวกัน แต่เอกสารส่งมาถึงบ้านคนละวันกัน

ต่อมาได้มีนายพลกฤต เนาว์ประโคน ที่ปรึกษาสภาทนายความแห่งประเทศไทย ได้ออกมาระบุว่า หลังทราบเรื่องราวมาก่อนหน้านี้ ได้รับการประสานมาจาก ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความแห่งประเทศไทย ว่าจะเข้ามาช่วยว่าความให้ในกรณีดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษ เพราะสภาเห็นใจนักศึกษาเภสัชฯ และครอบครัว และเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการเรียนของเด็ก เบื้องต้นจะขอตรวจสอบเอกสารคำฟ้องก่อน เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือเด็กต่อไป

แม่นศ.เภสัชฯเครียดจัดบริษัทอาหารเสริม ฟ้องเรียกค่าเสียหาย50ล้าน

ด้าน น.ส.เอ กล่าวว่า ตอนที่ได้รับหมายศาลครั้งแรกก็ตกใจแล้ว เพราะบริษัทเรียกค่าเสียหายถึง 50 ล้านบาท แต่มาได้อีก 1 หมาย เป็นความอาญา ยิ่งตกใจและเป็นกังวลมาก เพราะถือว่ารุนแรงเกินไปที่ครอบครัวเล็กๆ อย่างเราจะทานได้ ที่ผ่านมาการร้องสื่อเราไม่เคยเอ่ยชื่อผลิตภัณฑ์ ไม่มีภาพผลิตภัณฑ์ปรากฏ สาเหตุที่ร้องสื่อเพราะต้องการหาความชอบธรรมให้กับลูกสาว ที่ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่เคยกินยาชนิดใดๆ มาก่อน ทั้งยังต้องเร่งหาความจริงโดยเร็ว เพราะลูกสาวใกล้จะมอบตัวเรียนเภสัชฯ ที่ลูกตั้งใจเอาไว้ ตอนนี้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง ที่มีสภาทนายความยื่นมือมาช่วยเหลือ ห่วงแต่ลูกสาวที่ทั้งเรียนและทั้งรับเรื่องราวที่โหมเข้ามา