ยังเป็นประเด็นที่สังคมไทยถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่ “หยก ธนลภย์” เยาวชนวัย 15 ปี ที่แต่งชุดไปรเวทและย้อมผมไปเรียน จนเจ้าตัวแจ้งว่าถูกไล่ออก แม้ภายหลังทางโรงเรียนแจ้งว่า ยังไม่ได้มามอบตัว ทำให้ไม่มีฐานข้อมูลในระบบว่า เป็นนักเรียนของโรงเรียน โดยภายหลังได้มี “กองร้อยน้ำหวาน” ตำรวจหญิงสายปราบปราม เข้าไปภายในโรงเรียนอีกด้วยนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ได้เกิดกระแสแชร์โพสต์จาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อรรถพล อนันตวรสกุล อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังได้ระบุว่า “เรียน ผู้บริหาร รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ คณะครู และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน” จากข่าวภาคเช้าที่มีการนำเสนอผ่านสื่อมวลชน ทราบว่ากำลังมีการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในพื้นที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการในเช้านี้

ท่านยังมีทางเลือกในการหาทางออกจากความขัดแย้งกรณีนักเรียนหญิง แสดงออกทางการเมืองผ่านการแต่งไปรเวท ทำสีผม เลือกเข้าเรียน/ไม่เข้าเรียนรายวิชา และเข้าร่วม/ไม่เข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน อยู่นะครับ การเลือกที่จะผลักเด็กออกจากโรงเรียน การปิดโอกาสสื่อสารสองทาง เจรจาหารือ และการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจัดการปัญหาแทนท่าน ไม่ใช่ทางออกที่ดี และแสดงให้เห็นว่าโรงเรียนและผู้ตัดสินใจกำลังใช้อำนาจหน้าที่ (authority) ขัดแย้งกับบทบาทหน้าที่และความรับผิดรับชอบของท่านเองในฐานะข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษาที่ต้องยึดประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นที่ตั้ง โดยไม่เลือกปฏิบัติ ยังมีเวลาและมีทางเลือกในการหารือรับฟัง ตัดสินใจร่วมกันกับผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกจากความขัดแย้งนี้ได้

ในฐานะผู้ใหญ่ที่ถูกคาดหวังจากสังคมว่า ต้องมีวุฒิภาวะมากกว่า เท่าทันอคติของตนเองมากกว่า รอบคอบในการตัดสินใจมากกว่า ขอได้โปรดทบทวนท่าทีและวิธีการเพื่อให้เกิดการตัดสินใจที่นำพาสังคมไปต่อได้ และแสดงให้เด็กและเยาวชน พ่อแม่ผู้ปกครอง และสังคม ได้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความขัดแย้งได้อย่างเคารพกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ร่วมสังคมเดียวกัน ด้วยความเคารพครับ..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Athapol Anunthavorasakul