เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. จากการที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการทุกหน่วยงานให้เร่งรัดตรวจสอบราคาผลไม้ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า ล้งผลไม้มีการวางแผนกดราคาผลไม้ให้ตกต่ำ เพื่อหวังทำกำไรที่ปลายทางคือ ประเทศจีน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับ นายฤทธี มีพืชน์ เกษตรกรชาวสวนผลไม้รายใหญ่ ในพื้นที่ ตำบลจันทเขลม อำเภอเชาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี เพื่อสอบถามสถานการณ์การผลิตผลไม้ฤดูกาลนี้ โดยนายฤทธี เปิดเผยว่า ผลไม้จันทบุรี ในฤดูกาลผลิตปีนี้ ผลผลิตออกพร้อมกันเวลาไม่ทุกสวน โดยเฉพาะในบางพื้นทีแถบ อำเภอโปงน้ำร้อน และ พื้นที่ อำเภอเชาคิชฌกูฎ ที่ผลผลิตออกช้าล่าหลังสุดกว่าอีก 8 อำเภอของจังหวัด และเข้าใกล้หมดช่วงฤดูกาลภายในสิ้นเดือน มิ.ย. นี้

สำหรับเรื่องผลไม้ในระยะเวลา 4-5 ปี ที่ผ่านมา ถือว่ามีราคาดีมาก ในปีนี้ทุเรียนมีดแรก ตัดได้กิโลกรัมละกว่า 280 – 300 บาท และราคาล่าสุดชุดท้ายในวันที่ 18 มิ.ย. มีราคาตัดหน้าสวน อยู่ที่กิโลกรัมละ 105 บาท ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่เฉลี่ยกิโลกรัมละ 130 บาท

ส่วนมังคุดราคาเริ่มต้นฤดูกาลอยู่ที่ 140 บาท นานหลายสัปดาห์ และราคาลดลงมากิโลกรัมละ 60-70 บาท จนกระทั้งรุ่นสุดท้ายราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 30-40 บาท เพราะเป็นมังคุดตกไซด์เนื่องจากจะมีเนื้อแก้วขาวใสหรือเนื้อแก้ว จากภาวะเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งชาวสวนมังคุดทราบและเข้าใจดี ถึงปัญหามังคุดเนื้อแก้ว ทำให้ราคาตกลงมา ส่วนกระแสข่าวเรื่องการถูกกดราคาจากผู้รับซื้อในส่วนของจ.จันทบุรี ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเข้าสู่ระยะสิ้นสุดฤดูกาลแล้ว

“ทราบข้อมูลจากชาวสวนรายใหญ่ด้วยกัน ตลอดจนผู้ประกอบการล้งรับซื้อผลไม้ว่าฤดูกาลผลิตปีนี้ ผลไม้จันทบุรี ได้สร้างเม็ดเงินจากการขายผลไม้ คาดสูงถึงกว่า 7 หมื่นล้านบาท และเชื่อว่าหากชาวสวนผลไม้ ให้ความสำคัญ และตระหนักเน้นคำนึงถึงเรื่องคุณภาพ ราคาผลไม้จันทบุรี จะยังคงดีอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลต่อไป” นายฤทธี กล่าว.