ยังเป็นช่วงเวลาที่ต้องลุ้นระทึกสำหรับอนาคตทางการเมืองของไทย หลังผ่านการเลือกตั้งมา 1 เดือนเศษ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมประกาศรับรอง ส.ส. ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ จากนั้นคงจะได้เห็นภาพความชัดเจนและความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาอีกระดับ
ในช่วงที่ผ่านมาสปอร์ตไลท์ทางการเมืองต่างพุ่งไปที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล หลังเจอศึกหนักปมหุ้นสื่อไอทีวี ที่ล่าสุดคลี่คลายลงบ้างหลังมีการเปิดเผยคลิปบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ซึ่งไม่ตรงกับรายงานบันทึกการประชุม และรายงานงบการเงินที่นำเสนอต่อหน่วยงานต่างๆ พร้อมความพยายามในการเชื่อมโยงกับขบวนการปลุกผีไอทีวีจ้องเตะตัดขาสกัดไม่ให้ “พิธา” เป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้งคลิปเสียงและเอกสารหลักฐานที่ปรากฏออกมา จึงดูเหมือนจะเป็นสิ่งปลุกปลอบขวัญกำลังใจมวลชนที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลในยามที่พรรคต้องเจอกับมรสุมรอบด้าน ตลอดจนสารพัดกับดักของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อพรรคก้าวไกล
อย่างไรก็ตามหลังจากก้าวไกลมัวสาละวนกับการเคลียร์ปัญหาปมหุ้นสื่อของหัวหน้าพรรค ในช่วงกำลังจะเข้าสู่ช่วงไคลแม็กซ์ในทางการเมือง หลังกกต. ประกาศรับรอง ส.ส.ในสัปดาห์นี้ จากนั้นคาดว่าจะมีการเปิดประชุมสภาเพื่อโหวตเลือกตำแหน่งประธานสภาตามมาในช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้ โดยเก้าอี้นี้นอกจากจะเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติแล้ว ยังเป็นหัวใจหลักในการคุมเกม ดึงเกม ยื้อเวลาในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หรือการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความคุณสมบัติ ส.ส. ของ “พิธา” ได้
แม้จะเกิดดราม่าศึกชิงเก้าอี้ประธานสภาระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย คือ “โรม” รังสิมันต์ โรม โฆษกและว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล กับ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ต่างขอยึดเก้าอี้ประธานสภาไว้แน่น แต่สุดท้ายมีสัญญาณจากพรรคเพื่อไทยสั่งให้เดินเกมถอยซึ่งล่าสุด “เสี่ยอ้วน”กลับลำบอกว่าพรรคเพื่อไทยหนุนพรรคอันดับ 1 นั่งเก้าอี้ประธานสภา ส่วนพรรคอันดับ 2 ได้ 2 เก้าอี้รองประธานสภาฯ และรอกกต.ประกาศผลคะแนนอย่างเป็นทางการก่อนถกต่อ
วันนี้การย้ำสัญญาณการกอดเก้าอี้ประธานสภาไว้แน่นของพรรคก้าวไกล เป็นสิ่งสะท้อนความไม่แน่ใจต่ออนาคตทางการเมืองของ “พิธา” จึงจำเป็นต้องยึดโควตานี้เอาไว้เพื่อประกาศนิติสงคราม สะเดาะกลอนการเมืองที่ถูกลงคาถาด้วยอภินิหารทางกฎหมายเอาไว้
ที่สำคัญต้องจับตาดูว่าการเดินเกมถอยของพรรคเพื่อไทยได้ของขวัญชิ้นโตเป็นเก้าอี้ รมว.พลังตอบแทน หรือถ้าเกมการเมืองพลิกฝ่าด่านเคราะห์ 250 ส.ว.ไม่ได้จน “พิธา”ต้องตกสวรรค์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยก็จะได้ขึ้นสวรรค์นั่งเก้าอี้นายกฯ แทนหรือไม่.