ออกมาเปิดหน้าใหม่ครั้งแรก สำหรับ เอ้ ชุติมา ที่ไปขึ้นเขียงทำศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตกับวัย 55 ปี พร้อมเปิดใจหลังหน้ามืดวูบล้มหัวฟาดพื้น หวิดเป็นเจ้าหญิงนิทรา ผ่านรายการคุยแซ่บshow แบบจัดเต็ม

เอ้ เผยว่า “เรื่องวูบแล้วหน้าฟาดพื้นวันนี้โอเคแล้วค่ะ ณ วันนั้นที่มันเกิดอาการ จริงๆ ต้องขอบคุณแฟนคลับทั่วประเทศ และเพื่อนๆ ศิลปินดาราเยอะมาก ไลน์มาส่วนตัวด้วย ในเฟซ ในไอจีเยอะมากว่าเราเป็นยังไงบ้าง อันนี้คุณหมอพูดเลยว่า 1 ในล้านนะ ที่โชคดีแบบนี้ ส่วนใหญ่คนที่วูบแล้วหัวฟาดห้องน้ำก็จะเป็นเจ้าชายนิทรา เจ้าหญิงนิทรา เพราะบางคนก็เส้นเลือดในสมองแตก บางคนก็เป็นสโตรก หรือมีเลือดคั่งในสมอง วันนั้นที่วูบ คือช่วงนั้นเราทำศัลยกรรม คุณหมอสั่งห้ามก้มหัว ต้องตั้งหัวไว้ เวลาสระผมก็ให้เงยหน้าสระ ทุกอย่างต้องไม่ให้เลือดลงข้างล่าง วันนั้นชวนลูกสาวบุญธรรมไปสระผมให้ เลยเงยหน้าขึ้น รู้สึกว่าไม่สะอาดไง ก็เลยก้มหัวลงมาสระเอง อยู่ดีๆ ก็หน้ามืดแต่ไม่บอกลูกสาว สงสัยไม่เป็นไรหรอก แล้วเดินไปซับผมให้แห้ง ไปยืนพิงประตูห้องน้ำ อยู่ดีๆ พูดว่าหน้ามืด มึนหัวจังเลย สักครู่เดียวก็ไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว มืดไปเลยอาการนี้น่ากลัวมาก ไม่รู้ตัว ตื่นมาอีกทีตัวเปียกใส่ผ้าขนหนูอยู่ตรงห้องน้ำ ลืมตามาได้ยินลูกปลุก แม่ตื่นๆ เราก็ถามลูกว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไร ให้ลูกเล่า ลูกบอกว่าแม่บอกว่ามึน อยู่ดีๆ ก็ตาค้าง แล้วล้มหัวฟาดกับชักโครก แล้วร่วงไปฟาดตรงพื้นแล้วหลับไปเลย ลูกเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตอนวูบ เขาเห็นหมด เล่าให้เราฟัง เขาตกใจ หัวไม่แตก ก็เลยคิดว่าตัวเองคงไม่เป็นอะไร เลยไม่ไปโรงพยาบาล นั่งสักแป๊บบ้านเริ่มหมุน สักครู่อาเจียนไม่หยุด เราเคยอ่านว่าคนที่เป็นสโตรกหรือเส้นเลือดสมองตีบ ถ้าอาเจียนปุ๊บอันตรายมาก เลยไปโรงพยาบาล ไปปั๊บ คุณหมอก็ทีซีสแกน ตรวจหัวใจ ตรวจความดัน ตรวจทุกอย่าง เป็นเพราะอะไรทำไมถึงวูบ คุณหมอดูแลดีมากๆ อยู่โรงพยาบาล 3 คืน 4 วัน แล้วคุณหมอบอกว่าคุณเอ้เป็น 1 ในล้านเลยนะที่ฟาดขนาดนั้นแล้วไม่เป็นอะไรเลย อาการวูบนี่เกิดจากพี่เอ้นอนน้อย นอกจากทำศัลยกรรมแล้ว ช่วงนั้นก็เขาให้นอนเร็ว แต่พี่นอนวันละ 2 ชม. แล้วเปิดคลับของทอมโฮส นอนน้อย ดื่มน้ำน้อย อายุมากแล้ว กลายเป็นว่าเราพักผ่อนไม่เพียงพอ ความวูบมันก็เกิดขึ้น แล้วอะไรที่คุณหมอห้าม เราก็ทำตรงกันข้ามหมด”

“พอออกจากโรงพยาบาลชีวิตเปลี่ยนเลย ต้องนอนหลับให้มากขึ้น ตอนนี้รักตัวเองมาก ดื่มน้ำเยอะขึ้น เรื่องน้ำสำคัญ คุณหมอให้เราดื่มน้ำ 2 ขวดใหญ่เลย เพราะจะทำให้ร่างกายของเราเลือดหมุนเวียนดี นอนให้พอ 6-8 ชม. เรื่องกลัวตายไหม ช่วงที่หลับวูบไปไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็มีความรู้สึกว่าเรารอดได้ยังไง เอาจริงๆ เราทำบุญ เราสวดมนต์เยอะด้วยตอนร่วง เหลือเชื่อมากๆ ไม่รู้สึกอะไรเลย แล้วปวดนิดเดียว ถ้าลูกไม่อยู่ก็คงหลับอยู่ในห้องน้ำ ไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะทั้งหลังเราอยู่กันแค่ 2 คน แฟนก็ไม่มี ชีวิตมันเศร้าตรงนี้ ไม่มีใครดูแล ถ้าลูกไม่อยู่วันนั้น เราไม่รู้ว่าเราจะรอดถึงวันนี้หรือเปล่า เราสวดมนต์ที่โรงพยาบาล ไหว้พระ แล้วสวดเจ้าที่เจ้าทางของโรงพยาบาล บอกหมดเลยหนูยังมีภาระ ต้องเลี้ยงคุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว หลาน หนูตายไม่ได้ หนูขอนะ ถ้าหนูจะตายคือตายเลย แต่ถ้าหนูไม่ตาย อย่าให้หนูเป็นเจ้าหญิงนิทราหรือเอ๋อ อ๊อง เป็นภาระของที่บ้าน บอกบุญกุศลที่ทำทั้งหมด ขอชีวิตหนูกลับมา”

เอ้ เล่าต่อว่า “ที่คนโยงว่าลดน้ำหนักมากไปเลยวูบคืออย่าคิดว่าพี่ลดน้ำหนักแล้ววูบ พี่ลดน้ำหนักมา 8 เดือนแล้ว พี่ไม่เคยมีปัญหา ไม่วูบ ไม่หน้ามืด ไม่ใจสั่น มีแต่สวยขึ้นๆ น้ำหนักลงไป 24 กิโลภายในเวลา 2-3 เดือน ตอนทำศัลยกรรมดึงหน้า พี่ผ่าตัด 6 ชม. ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรใดๆ เลย เพราะตอนทำคุณหมอสั่งห้ามทานอาหารเสริมทุกชนิด เพราะการทานอาหารเสริมมันจะทำให้เลือดวิ่งแรง เลือดพุ่ง อาการวูบ คุณหมอเช็กทุกอย่างแล้วว่าเกิดจากที่พี่นอนน้อยมากๆ ไม่ได้เกี่ยวกับอาหารเสริมลดน้ำหนักหรืออะไรที่พี่ทานเลย เรื่องเป็นดาราหน้าใหม่ เอาจริงๆ เกิดมาในชีวิตไม่เคยทำศัลยกรรมเลย คือไปทุกที่ในวงการบันเทิง แม่มันถึงเวลาแล้ว แก้มย้อย แม่มีเหนียงแล้ว เราก็ไม่มั่นใจ แล้วล่าสุดไปเล่นละครกับน้องเจมส์ จิ เล่นเป็นผู้หญิงที่เลี้ยงน้องเจมส์ จิ แล้วมันไม่ได้เหมือนผู้หญิงเลี้ยงแล้ว มันเหมือนแม่ เหมือนป้ากับหลาน เรารู้สึกว่าหน้าเราห้อยย้อยมาก เราไม่มั่นใจ กล้องจับมุมไหนก็ไม่ได้แล้ว เราปรึกษาน้องซันนี่ นี่แหละ เขาบอกว่า แม่ต้องเอาตรงนี้ขึ้นนิดหนึ่ง ไม่ให้มีร่องน้ำหมาก คอให้ตึงนิด เรา 55 แล้ว ถ้าแม่ไม่ทำตอนนี้ไปทำตอน 60 หลับไปเลยนะเกิดวางยาสลบแล้วหลับไปทำยังไง เขาบอกว่าไม่เจ็บ เราก็บอกว่าจริงเหรอ แต่พอเราไปทำก็เจ็บ แต่เจ็บแล้วจบโอเค ตอนทำคุณหมอน่ารักมากเลย เขาให้เราไปตรวจร่างกาย เพราะเรา 55 เขากลัวว่าวางยาสลบแล้วต้องผ่าตัด 6 ชม.ครึ่ง เราก็ตกใจจะทำดีหรือไม่ทำดี เครียดมาตลอด 1 อาทิตย์ หาข้อมูลบอกคุณหมอหนูเคยเป็นอดีตนางสาวไทย หนูเป็นดาราอยู่แล้ว ไม่ใช่หน้าหนูขี้เหร่มาก แต่ไม่ได้สวยมาก พอดูได้ คุณหมอบอกหน้าคุณเอ้ยังดีอยู่เลย ถ้าคุณหมอจะทำ คุณหมอขอให้ละมุนขึ้น แค่เก็บแก้ม ดึงคอให้ตึง และคางอีกนิด แล้วเอาไขมันมาเติมจมูก ใต้ตา ตอนนี้ทำมาไม่ถึงเดือนเลย หน้าจะเข้าที่ประมาณ 1 เดือน 3 เดือนจะละมุน”

“ถามว่าทำอะไรเพิ่มไหม ไม่อยากแล้วค่ะ จริงๆ เหลือหน้าอก ถามว่ามีไหม มีค่ะ แต่ด้วยอายุเยอะอย่างเอ้มันจะคล้อยตามแรงโน้มถ่วง ถามว่าทำไหม ก็คิดดูก่อน เรื่องรักใหม่อยากมีมากเลย มีไหมอะ ทำเพราะว่ามันถึงเวลาที่ต้องทำแล้ว ด้วยอายุ แล้วยังเล่นละครอยู่ ออกรายการ ขึ้นคอนเสิร์ต คือมันยังอยู่ในวงการบันเทิง จริงๆ เริ่มเข้าวงการตั้งแต่อายุ 16 เป็นนางสาวไทย อายุ 19 พออายุ 55 พี่อยู่ในวงการบันเทิงเกือบ 40 ปีแล้ว ละครยังเล่นอยู่ ยังไม่หายจากจอทีวีเลย มันเลยต้องดูแลตัวเองสูงมาก ไม่เกี่ยวกับใครเลย ถ้ามีก็ดีนะ ถามว่าคนจีบเยอะไหม ก็เยอะมากนะ เรามีคนต่างชาติก็จะเป็นเกาหลี อันดับ 1 อันดับ 2 ญี่ปุ่น อิสราเอล มีเลบานอนก็มี พวกแขกจะชอบหน้าแบบเรา ส่วนใหญ่มาจีบทางเฟซ ไอจีทักมา เราก็กลัว 18 มงกุฎ เราก็ต้องตรวจสอบ หลายคนก็มีบินมาหาด้วย แต่ไม่กล้าให้เจอ เราก็เขินไง เคยมีอยู่คนหนึ่งจีบเราเสร็จ พอดูว่าเรามีเพื่อนใครบ้าง ไปจีบเพื่อนเราต่อด้วยนะ เหมือนถ้าไม่ได้เราได้เพื่อนก็ได้ ซึ่งกลุ่มเราก็ไม่เอา เรื่องปฏิเสธหนุ่มคือถ้าไม่เอา ไม่ติดต่อเลยก็คือบล็อกเลย ขอโทษเขา ฉันเป็นดารา ไม่มีเวลา ถ่ายละครเยอะ ฉันมีแฟนคลับเยอะ ฉะนั้นการที่คุณจะมาเป็นแฟนฉันคุณจะต้องออกโลกโซเชียล ออกข่าวที่นี่ ถ้าคุณไม่พร้อมหรือโกหกฉันไม่ได้นะ สื่อเขาไม่ยอมนะแบบนี้”

“ตอนนี้มีคนคุยด้วยเยอะมาก เพื่อนในเฟซ แต่ในไลน์เยอะมาก คือหลังจากที่คุยเฟซนานแล้วจะขอไลน์ส่วนตัว เราภาษาอังกฤษก็ยังไม่แข็งแรง รู้สึกตอนหลังๆ เริ่มเบื่อ ก็มีการก๊อบปี้คำพูด เช่น วันนี้ฉันสบายดี ฉันอยู่นี้ก็ก๊อบปี้คำพูดนี้ส่งให้ทุกคนเลยเอาจริงๆ ต่างประเทศก็เป็นเพื่อนกัน แต่ในประเทศจะเป็นสาวหล่อ เรื่องกลับไปเป็น LGBTQ+ เต็มตัวค่ะ กลับไปเหมือนเดิม ยืนที่เดิม เป็นสาวหล่อที่คุยกันทุกวัน เช้า สาย บ่าย เย็น ในไลน์ ก็เจอกันบ้าง มีเดทบ้าง แต่มีเพื่อนไปด้วย คือต้องเซฟตัวเอง ถามว่าเข็ดไหมกับความรัก ไม่เข็ดค่ะ แต่ว่าต้องเลือก ต้องใช้เวลาแล้วตอนนี้ เพราะพลาดไม่ได้แล้ว อายุ 55 แล้ว เป็นคนรักใคร รักจริง รักมากด้วย แต่เวลาที่เราชอบใครที่เป็นสาวหล่อ เราต้องเป็นคนจีบเขาก่อน คนแรกเลย ทุกวันนี้ยังเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่คบกันมา 9 ปี คบตั้งแต่มัธยม 1 ยาวจนมาเป็นนางสาวไทย เราไปจีบเขา เขาเป็นสาวหล่อที่ดังที่สุดแล้ว แล้วหน้าเขาเหมือนพี่ปุ๊ อัญชลี มีแต่คนจีบเขา แต่เขาเรียบร้อยมาก ตรงข้ามกับนิสัยเรา เหมือนขาวกับดำ เรามาเปลี่ยนเป็นผู้ชายตอนที่บ้านขอ และหลายๆ คน ผู้ใหญ่ขอ ตอนที่ออกข่าวคนลงตีฉิ่ง ตีฉับ มันแรง ก็เลยบอกแฟนว่าเขาขอนะ ซึ่งรักกันอยู่ แฟนบอกว่า อะไรก็ได้ถ้าคุณมีอนาคต ไปได้ เขาเป็นห่วงอยู่ห่างๆ เป็นเพื่อนกันก็ได้ เราเสียใจมาก ร้องไห้ก่อนจะเลิก ไม่ได้อยากเลิก แต่ต้องทำ สมัยก่อนเขาไม่เปิดจริงๆ แล้วเราเป็นคนติดแฟน แล้วยิ่งเป็นนางสาวไทยด้วยเขาไม่ยอมรับจริงๆ”