เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. น.ส.น้ำผึ้ง เอี่ยมศิริ อายุ 29 ปี สาวพนักงานขายเครื่องสำอางค์ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า วันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้านเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ ภายในห้องเช่าของตน เลขที่ 76/1 ม.8 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กวาดเอาทรัพย์สินไปมูลค่ากว่า 10,000 บาท หลบหนีไป หลังเกิดเหตุได้แจ้งความร้องทุกกับ ร.ต.อ.ศรสุพรรณ อดทนศรีอนันต์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางละมุง พร้อมนำกล้องวงจรปิดไปมอบให้ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามตัวคนร้ายมามาดำเนินคดี เพราะยังคงเห็นคนร้ายขี่จยย. วนเวียนอยู่ในละแวกบ้าน กลัวว่าคนร้ายจะย้อนมาก่อเหตุซ้ำและก่อให้เกิดอันตรายกับตนเองได้

น.ส.น้ำผึ้ง เล่าอีกว่า ในวันที่เกิดเหตุไม่มีคนอยู่บ้าน โดยปกติจะเอากุแจห้องซ่อนไว้ในหมวกกันน็อกหน้าบ้านเป็นประจำ เพื่อให้ลูกที่กลับจากโรงเรียนไขเข้าบ้านได้สะดวก ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นมีคนร้ายเข้ามาหยิบกุญแจในหมวกกันน็อก เหมือนกับรู้ว่าเก็บกุญแจไว้ที่ไหน แล้วไขเข้าไปในห้องอย่างง่ายดาย และเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินประมาณ 2 นาที หลังได้ทรัพย์สินเป็นกระปุกออมสิน 2 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง มูลค่าประมาณ 10,000 บาท และกล่องเก็บสะสมพระเครื่องอีกหลายองค์ ประเมิณค่าไม่ได้ ซึ่งเงินที่เก็บสะสมไว้นั้นหวังว่าจะไว้ดาวน์รถยนต์ไว้ขับทำมาหากินสักคัน

โดยกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายไว้ได้ เป็นผู้ชาย 2 คนอายุประมาณ 30-40 ปี คนขี่รูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อสีน้ำเงินกางเกงยืนขายาว สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ คาดแดง อีกคนเป็นคนซ้อนรูปร่างสันทัด สวมเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงยีนสามส่วน รองเท้าแตะ มีรอยสักที่แขน สวมหมวกกันน็อคเต็มใบสีขาว ขี่จยย.แบบออโตเมติก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเข้ามาจอดที่หน้าห้องแล้วหยิบกุญแจในหมวกกันน็อก ที่เจ้าของห้อง ราวกับเป็นเจ้าของบ้านเอง แล้วเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินในห้อง ใช้เวลาไม่นานก็ออกมาพร้อมทรัพย์สินแล้วขี่จยย. หนีไป

นอกจากนี้ น.ส.น้ำผึ้ง ยังกล่าวอีกว่า หากในวันที่เกิดเหตุลูกสาวตนเองอายุเพียง 8 ปี กลับมาพอดี อาจจะเกิดอันตรายได้ ซึ่งหลังแจ้งความร้องทุกข์ไปแล้วก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งที่คนร้ายยังคงผ่านไปมาอย่างปกติสุข แต่ชาวบ้านหวาดกลัวจึงตัดสินใจมาร้องสื่อ เพื่อหวังจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนชอบซ่อนกุญแจไว้หน้าบ้าน รวมไปถึงเป็นเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ตามกระบวนการทางกฎหมายให้ได้เร็วที่สุด.