สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ว่า นายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีน และที่ปรึกษาด้านนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวเมื่อวันจันทร์ ยืนยันว่า นโยบายและมาตรการทั้งหมดของรัฐบาลกลาง เกี่ยวกับการสนับสนุนการดำเนินงานทางธุรกิจของภาคเอกชน "ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง" 
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจแทบทุกแขนงในจีนเผชิญกับ "มาตรการตรวจสอบอย่างหนัก" ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กอย่างสตาร์ทอัพ ไปจนถึงบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ และหลายแห่งอยู่คู่กับสังคมจีนมานานหลายทศวรรษ แม้นายหลิวปฏิเสธขยายความเรื่องนโยบายของส่วนกลาง ที่มีต่อการดำเนินงานของภาคเอกชนในประเทศ แต่กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจเหล่านี้สร้างรายได้จากภาษีอากรให้แก่รัฐสูงถึง 50% มีมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกันมากกว่า 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี ) และช่วยสร้างงานในเมืองได้มากถึง 80%
อนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ คณะผู้นำสูงสุดขอจีนประกาศแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ ด้วยการ "สร้างความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน" เพื่อกระจายความมั่งคั่งให้แก่ประชาชนทุกคน ซึ่งหนึ่งในแนวทางปฏิบัติของภาครัฐ คือ "การควบคุมและจัดระเบียบให้ได้ประโยชน์อย่างทั่วถึงกัน"
ทว่าการที่แนวทางในภาพรวมยังคงคลุมเครือ ทำให้หลายฝ่ายยังคงมีคำถามและเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ด้านสื่อกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์ทยอยออกมาชี้แจง ว่านโยบายนี้ "ไม่ใช่การฆ่าคนรวยเพื่อช่วยคนจน" และ "ไม่ใช่การปฏิวัติ" แต่ "เป็นการปฏิรูป".

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES