ภายหลังจากที่มีการเซ็นสั่งย้าย พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เซ่มปมส่วยสติกเกอร์ นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการแทน ผบก.ทล. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ว่า วันนี้ตนจะเซ็นคำสั่งยกเลิกการตั้งชุดเฉพาะกิจทั้งหมด ที่มีอยู่ใน บก.ทล. ทั้งหมด ซึ่งเป็นการทำงานซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น ทั้งชุดของกองบังคับการ กองกำกับการ และชุดที่ถูกแต่งตั้งในระดับสารวัตร ดังนั้นจึงต้องยกเลิกทั้งหมด ให้เป็นลายลักษณ์อักษร หลังจากที่เมื่อวานมีคำสั่งด้วยวาจาไปแล้ว และขอสงวนการแต่งตั้งชุดเฉพาะกิจไว้ให้กับระดับผู้บังคับการเท่านั้น ที่จะเป็นผู้พิจารณาเป็นกรณีตามความจำเป็น และเมื่อยกเลิกชุดเฉพาะกิจแล้วจะให้ตำรวจทางหลวงกลับมาบังคับให้กฎหมายหลักอย่างจริงจัง

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อไปว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับรถบรรทุกหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้ 7-8 คัน หลังจากนี้จะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง วันนี้ในการประชุมจะให้แต่ละกองกำกับการ และหน่วยต่างๆ รายงานข้อมูลของส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกในพื้นที่ว่ามีจำนวนเท่าใด และหน่วยงานไหนเป็นผู้ออกให้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของ บก.ปปป. พบมีข้อมูลสติกเกอร์ส่วยรถบรรทุก และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคเอกชน และตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงข้อมูลจากจเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อสอบสวนชุดเฉพาะกิจดังกล่าว เพราะชุดเฉพาะกิจนี้ ตั้งขึ้นมาเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว เพื่อเป็นตัวประสานระหว่าง ตร.ทล. และสหพันธ์ขนส่งฯ ในเรื่องต่างๆ และการยกเลิกในครั้งนี้ ก็เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการทำงานของคณะกรรมการสอบที่ทางส่วนกลางตั้งขึ้นมา

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ยอมรับว่ามีหลายหน่วยงานเข้าไปเกี่ยวข้องกับส่วยดังกล่าว แต่ตำรวจถือเป็นด่านหน้า และใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด จึงทำให้ถูกจับตามอง และมีข้อมูลต่างๆ ค่อนข้างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีข้อมูลทางลับจากแหล่งต่างๆ จำนวนมาก แต่ยังไม่พบว่าบุคคลที่ให้ข้อมูลมา มีพยานหลักฐานชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นเพียงคำบอกเล่า และภาพถ่ายของสติกเกอร์ และข้อมูลสติกเกอร์ที่ทางตำรวจมีข้อมูล ไม่ได้มีเฉพาะแค่ที่มีการเปิดเผยผ่านสื่อต่างๆ แต่มันมีมากกว่านั้น โดยในวันพรุ่งนี้ (2 มิ.ย.) ได้นัดหมายกับนายกสมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทยเข้ามาให้ข้อมูลการทุจริต ส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก รวมไปถึงหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหา ส่วนการประสานขอข้อมูลจาก นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตอบรับกลับมา แต่ตนอาจจะประสานไปด้วยตนเอง ทั้งนี้ ตนเองชื่นชมนายวิโรจน์ ที่นำข้อมูลการทุจริตต่างๆ มาเปิดเผย และติดตามข้อมูลต่างๆ ที่ออกมาเปิดเผย รวมไปถึงส่วยในลักษณะอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ ยินดีที่จะร่วมงานกันในเรื่องของการปราบปรามการทุจริต แต่ต้องไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง.