เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ทำการพรรคก้าวไกล ภายหลังจากนาย อภิชาต ไพรรุ่งเรือง สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสมาชิกสหพันธ์ เดินทางมาที่พรรคก้าวไกล เพื่อยื่นเอกสารระบุรายชื่อผู้ประกอบการจำหน่ายส่วยสติกเกอร์ จำนวน 46 เจ้า มามอบให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่าสามารถจำแนกได้ 10 ป้ายสติกเกอร์แบบหลัก

นายอภิชาต กล่าวว่า ส่วยรถบรรทุกมีมาตั้งแต่ปี 2539 -2540 ช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ก่อนหน้านี้เริ่มจากตำรวจไปเรียกรับเงินตามถนน จนถูกเปิดเผยผ่านสื่อ “ไอทีวี” ภายหลังจึงเปลี่ยนวิธีการจ่ายเงิน พัฒนามาเป็นรูปแบบของ “ส่วยสติกเกอร์” แสดงสัญลักษณ์ของแต่ละเจ้า แต่ละองค์กร เพื่อเคลียร์ทางให้ทำผิดกฎหมายได้อย่างโจ่งแจ้ง จากเดิมมีแค่ 4-5 ป้าย ตอนนี้มีเกือบ 50 ป้าย

ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการสมาชิกของสหพันธ์ฯ รวมตัวกันราว 4 แสนคัน จากทั้งหมด 1 ล้าน 5 แสนคัน ทำ MOU ว่าจะอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่จ่ายส่วยโดยเด็ดขาด และจะพยายามชักจูงผู้ประกอบการรายอื่นๆ ให้มาอยู่ใต้กฎหมายด้วยแต่ก็ไม่สามารถต่อสู้กับสิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐกดดันได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นคือ แม้รถบรรทุกจะทำถูกกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ก็จะเรียกรายทาง และพยายามกดดันหาความผิดเล็กๆ น้อยๆ ให้ แล้วบอกว่าให้โทรเคลียร์กับนาย เพื่อให้จ่ายส่วยรายเดือน หวังว่าการเปิดข้อมูลครั้งนี้จะเกิดความเปลี่ยนแปลง

นายอภิชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ได้นำทั้งรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และป้ายสติกเกอร์ที่ได้จำแนกมาให้กับนายวิโรจน์ โดยแต่ละป้ายนั้นจะต่างกันที่เจ้าของและระยะทางในการเดินรถซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินที่ผู้ประกอบการแต่ละเจ้าจะจ่ายไม่เท่ากันโดยมี 1.เจ้าของป้ายเป็นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในชุดเฉพาะกิจ สำหรับรถบรรทุก ดิน ทราย หิน และวิ่งทั่วไป 2.ป้ายใบโพธิ์ ปัน ปัน ติดข้างประตู เจ้าของป้ายเคยประจำที่ด่านชั่งชลบุรี ตอนนี้ย้ายมาที่ด่านสุวิทวงศ์ และมีตำรวจยศ “พันตำรวจเอก” ร่วมด้วย สำหรับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์และสินค้าทั่วไป รถบรรทุก ดิน หิน ที่วิ่งในภาคตะวันออก มอเตอร์เวย์ และภาคกลาง 3.ป้ายมารวย / PPR เจ้าของป้ายเป็นรองผู้กำกับ สำหรับรถบรรทุก ดิน ทราย หินและวิ่งทั่วไป ในพื้นที่ภาคกลางและปริมณฑล 4.ป้าย ตะติยพล / TATIYAPON เจ้าของป้ายเป็นบุคคลทั่วไป สำหรับรถตู้คอนเทเนอร์ 2 ตู้ หรือที่รู้จักในชื่อ “ตู้คู่” วิ่งถนนมอเตอร์เวย์ วิ่งนอกด่านชั่ง ส่วนใหญ่ระยะทางจากสถานีบรรจุและแยกกล่องสินค้า หรือ ICD ลาดกระบัง ไม่เข้าด่านชั่งลาดกระบัง ปลายทางแหลมฉบัง

5.ป้ายบางพลีใหญ่ เจ้าของป้ายเป็นบุคคลทั่วไป สำหรับรถบรรทุกตู้คอนเทเนอร์ วิ่งระหว่างลาดกระบังถึงแหลมฉบัง และท่าเรือคลองเตยถึงแหลมฉบัง 6.ป้ายนกอินทรีย์ สำหรับรถบรรทุกตู้คอนเทเนอร์ วิ่งพื้นที่ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ และปริมณฑล 7.ป้ายคนเมืองกาจญน์ สำหรับรถบรรทุกตู้คอนเทเนอร์ วิ่งพื้นที่ภาคตะวันตก กรุงเทพฯ และปริมณฑล 8.ป้ายโชคศรีสุข เจ้าของป้ายเป็นบุคคลทั่วไป สำหรับรถบรรทุกดิน วิ่งพื้นที่ภาคตะวันตก กรุงเทพฯ และปริมณฑล 9.ป้ายเจริญภูมิ เจ้าของเป็นตำรวจ สำหรับรถบรรทุกดิน วิ่งพื้นที่ภาคกลาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล 10.ป้ายนายกหมึก สำหรับรถบรรทุกตู้คอนเทเนอร์ วิ่งระหว่างลาดกระบังถึงแหลมฉบัง

นายอภิชาต กล่าวต่อว่า รถบรรทุกตู้คอนเทเนอร์เหล่านี้ ส่วนใหญ่จะวิ่งบนมอเตอร์เวย์ ไม่เข้าด่านชั่ง และต้องวิ่งให้หมดก่อน 3 ทุ่ม ส่วนรถบรรทุกเคลียร์แบกน้ำหนักภาคตะวันตก จะมีสติกเกอร์แยกมาอีก 22 ป้าย เช่น ทรัพย์ยินดี กิจขจรชัย คนกรุงเก่า โชคผ่องใส เป็นต้น รถบรรทุกเคลียร์แบกน้ำหนักภาคอีสาน มี 8 ป้าย ธนชัยการค้า นิวบางยนต์ NK ลูกพระธรรม ป.ปลื้ม โก๋ไข่ me มออิแดง จ.ศรีสะเกษ และ สนธยาพืชผล ซึ่งป้ายนี้ถูกระบุว่าเป็นของเจ้าของโรงสีในภาคอีสาน นอกจากนี้ รูปสติกเกอร์สัญลักษณ์ เช่น ป้ายดาวแดง จะใช้ในพื้นที่ภาคอีสาน ป้ายนี้จะเรียกว่าป้ายแพง ป้ายรูปชายอ้วน เจ้าของป้ายเป็นคนดังเมืองกาญจนบุรี ป้ายรูปกระต่าย เจ้าของป้ายเป็นภรรยาของนายตำรวจยศ “พันตำรวจเอก” ตำแหน่ง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ซึ่งครอบครัวฝ่ายภรรยามีโรงสีอยู่ที่ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ป้ายพระอาทิตย์ เจ้าของป้ายอยู่นครปฐมเช่นกัน และป้ายคาดทีกระจกรถบรรทุกว่า “พ่อเลี้ยงลำปาง” เป็นคนคนดังตามชื่อป้ายจังหวัด

ขณะที่ นายวิโรจน์ บอกว่า การพูดคุยกันในวันนี้ เพื่อหารือในการทำงานร่วมกัน ขจัดปัญหาคอร์รัปชั่นให้หมดไปจากแวดวงธุรกิจขนส่ง ซึ่งเรื่องการบรรทุกน้ำหนักเกิน ส่งผลกระทบกับประชาชนทั้งเรื่องราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และสภาพถนนที่เสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุ ตอนนี้ สังคมกำลังมุ่งเป้าไปแค่ที่ตำรวจทางหลวง แต่จริงๆ แล้ว เรื่องนี้ยังมีอีกหลายตัวละคร เช่น ตำรวจภูธรที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจราจรในพื้นที่ สำนักงานควบคุมน้ำหนักยานพาหนะที่ดูแลเรื่องด่านชั่ง เป็นต้น

สำหรับรายชื่อสติกเกอร์ที่ได้จะสืบสวนหาตัวบุคคลต่อ หากพบว่าเป็นข้าราชการจะส่งรายชื่อให้ จเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท. ผบก.ทล. เป็นคนจัดการ และไม่รับเคลียร์ ไม่ต้องโทรมาอยากให้กลับไปทำให้ถูกต้องมากกว่า

ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวชื่นชม นายวิโรจน์ ที่นำข้อมูลการทุจริตต่างๆ มาเปิดเผย ซึ่งก็เห็นด้วย และยินดีที่จะร่วมงานกันในเรื่องของการปราบปรามการทุจริต

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบตำรวจทางหลวงว่า วันนี้ได้ยกเลิกคำสั่งการตั้งชุดเฉพาะกิจทั้งหมดที่มีอยู่ใน กองบังคับการตำรวจทางหลวงทั้งหมด เพราะนี่คือปัญหาและช่องว่างที่อาจจะทำให้เกิดการทุจริต จากการตรวจสอบข้อมูลของ บก.ปปป. พบมีข้อมูลสติกเกอร์ส่วยรถบรรทุก และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งภาคเอกชน และตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน.