จัดเป็นพระเอกแถวหน้าของเมืองไทย ชาคริต แย้มนาม ที่วันนี้ควงภรรยาสาวคนสวย แอน ภัททิรา และลูกชายวัย 5 ขวบ น้องโพธิ์ มาเปิดใจการรีโนเวทบ้านหรูในเมืองกรุง ที่งานนี้ทำเอาหนุ่มชาคริตยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว พร้อมเคลียร์ใจหลังเจอมิจฉาชีพปลอมเพจขายทุเรียน สร้างความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ผ่านรายการคุยแซ่บ show แบบจัดเต็ม

ชาคริต เผยว่า “เรื่องรีโนเวทบ้าน พื้นที่ 3 ไร่ครึ่ง คือมันมีเรื่องราว จริงๆ ผมเองอยู่กับแม่ บ้านไม่ได้ใหญ่มากหรอก ตอนเด็กๆ อยู่กัน 2 คน เราเริ่มทำงานตั้งแต่เด็ก เรามีความคิดว่าอยากขยายเพื่อนที่เพิ่มอีกหน่อย เพราะอีกหน่อยเราต้องมีครอบครัว การทำบ้านน่าจะเป็นอะไรที่ครั้งเดียวให้มันเสร็จ ก็ไปซื้อที่ดินแปลงนึงไร่กว่าๆ แถวปทุมฯ คราวนี้มันเกิดวิกฤติน้ำท่วม ตอนนั้นแม่ผมยังมีชีวิตอยู่ ก็กลัว ไม่เอาแล้ว ก็เลยขาย แล้วกลับเข้ามาดูในเมืองก็ได้ ก็มาดูที่หมู่บ้านนี้ ตอนนั้นราคาที่ดินค่อนข้างดีแล้วเจ้าของบ้านเดิมอยู่ตรงข้าม แล้วเขาเหมือนถูกใจอะไรก็ไม่รู้ แล้วเราเองชอบต้นไม้ด้วย อยากมีพื้นที่ธรรมชาติเยอะๆ อยู่ดีๆ เขาก็ขายให้เราในราคาที่โอเคมากๆ ตอนนั้นคุณแม่ยังอยู่ แกชอบมากก็ซื้อ มันก็เป็นเวลา 10 กว่าปีแล้วตอนนั้นเราซื้อที่ตรงนี้ไม่ได้กะทำบ้านเลย เพราะเราเองใช้ชีวิตอยู่คอนโดฯ วัยรุ่นต้องอยู่ทองหล่อ จนกระทั่งคุณแม่ป่วยก็เริ่มรีเซตหมดเลย ทำงานเพื่อที่จะยื้อชีวิตคุณแม่เอาไว้เป็นเวลา 4-5 ปี มันแทบจะเริ่มต้นใหม่หมด ตอนนั้นมีแอน มีน้องโพธิ์ แล้วก็ต่อสู้กันมา เหมือนนับศูนย์ใหม่ เพราะว่าจากที่ตัวเราเองใช้เงินมาถึงจังหวะที่แม่ป่วยไม่มีใครซัพพอร์ตแล้ว มันได้เจอสัจธรรมชีวิตจริงๆ ต้องเริ่มต้นใหม่หมด แล้วแอนมาเป็นคู่คิด ดูแลคุณแม่ น้องโพธิ์ จนกระทั่งคุณแม่เสียชีวิต ก็มานั่งคิดกันว่าเอายังไงดี แอนเขาก็บอกว่าพี่มันใหญ่ไป ขายไหม แล้วไปซื้อบ้านจัดสรรที่มันพอดีๆ ตอนนั้นแอนบอกว่าคือเขาพูดง่ายๆ เขามองว่ามันเกินตัวไปหรือเปล่า แต่ในทางกลับกันเรามานั่งมอง ถ้าเกิดเราอยู่ในเมือง เราไปซื้อบ้านสมัยใหม่ แล้วขายที่ตรงนี้ คูณไปคูณมามันเท่ากันเลย เราสู้อีกนิดดีกว่าไหม แล้วก็ทำตรงนี้ให้มันเสร็จ แล้วเราจะได้มีพื้นที่ที่ต้องการ เพราะเราเน้นไว้ปลูกต้นไม้อยู่แล้ว”

“เรื่องเอาบ้านมาถ่ายละครไหม ขอคิดดูก่อน แต่ว่าเหมือนทุกคน ต้องมีขอความช่วยเหลือจากธนาคาร มีกู้แบงก์ ทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อตตามปกติ ไม่ได้แบบว่าร่ำรวยอะไร เพียงแต่เรารู้ว่าเราทำได้แค่ไหน ก็ทำประมาณนั้น ตอนแรกมีแพลนบ้านอยู่หลังหนึ่งที่เราบอกว่าจะทุบหลังนี้ คือหลังเดิมที่เขามีอยู่ แล้วสร้างใหม่เลยแบบที่เราชอบ แต่สุดท้ายรุ่นพี่มาดู คุณค่าของไม้เดิม รุ่นพี่ถามว่ามึงป่วยหรือเปล่า รู้ไหมมูลค่าของไม้แต่ละชิ้นเท่าไหร่ เป็นไม้สักทองหมดเลย หลังจากนั้นเราก็มามอง เออวะ แล้วมันก็เซฟงบไปตั้งครึ่งนึงในความคิด แล้วเราก็ไปสร้างสระว่ายน้ำที่เราอยากจะสร้างได้ ก็เลยไปเวนี้คือ รีโนเวทของเดิม ต่อเติมออกมา มีโฮมออฟฟิศ เพราะเรามีพนักงาน ก็สร้างอีกตึกหนึ่งขึ้นมา วันนี้เราใช้เป็นโฮมออฟฟิศก่อน อีกหน่อยจะเป็นโพธิ์ย้ายเข้าไปอยู่ หรือจะเป็นคลับเฮาส์อะไรในบ้านก็ได้ จริงๆ เริ่มต้นจะทำบ้านนี้เมื่อ 3 ปีกว่า เริ่มไปแล้วครั้งหนึ่ง แค่เริ่มต้นผู้รับเหมาเชิดไปเกือบ 4 ล้าน ก็เลยต้องหยุดไปอีกปี แล้วเริ่มต้นใหม่แล้วมาได้ผู้รับเหมาบริษัทนี้น่ารักมากๆ กว่าจะเป็นรูป เป็นร่างนี้คือท้อมาหลายรอบแล้วเหมือนกัน ด้วยพื้นที่มันใหญ่ แล้วเราเป็นคนชอบแบบสวนมีต้นไม้เชิงร้อน คนสวนต้องเก่งมากๆ ค่าทำสวนแพงนะเหมือนสร้างบ้านเลย เราก็ค่อยๆ ถอยมาแบบพอดี เพราะสวยไป เดี๋ยวก็พัง เพราะเจ้านี่ก็ยังต้องวิ่งเล่น ซึ่งบ้านหลังนี้น่าจะเสร็จอีก 2 เดือน ปลายกรกฎาคม น่าจะเข้าได้แล้ว”

ชาคริต เล่าต่อว่า “เรื่องโดนมิจฮาชีพแอบอ้าง ในเรื่องที่เราทำคลิปอัปเดตบ้านในเฟซบุ๊กบักโพธิ์ ที่ทำตั้งแต่โพธิ์เกิด ในนั้นก็จะมีแฟนคลับเรา ที่ติดตามตั้งแต่เราทำอาหารเลี้ยงลูก ไปบุกเบิกสวน จนมาถึงเรื่องบ้าน ก็ขอบคุณทางสื่อที่ชื่นชม และดึงออกไปนอกพื้นที่ของเรา แล้วไปเป็นข่าวตามที่ต่างๆ ก็เลยเริ่มมีคอมเมนต์เข้ามาบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบวกครับ คอมเมนต์เสียๆ ก็จะมีน้อยมาก จะทีช่วงหลังๆ ที่อาจจะเกิดความเข้าใจผิดจากการที่คนไทยชอบกินทุเรียน ประมาณสัก 8 เดือนที่ผ่านมา เราเริ่มโดนอย่างหนัก คือมิจฉาชีพที่ดูดคอนเทนต์ของเราไปหมด ใช้ชื่อคล้ายๆ เรา ใช้ชื่อผม แล้วหลอกขายทุเรียน ลูกละ 100 บ้าง 250 บ้าง ราคาดูน่าสนใจ ด้วยแฟนคลับหลายๆ คน ด้วยความน่าเชื่อมั่นในตัวเราเขาคงคิดว่า เราคืนกำไรให้แฟนคลับหรือเปล่า ทำโปรโมชั่นให้กับแฟนคลับหรือเปล่า จริงๆ อยากทำนะ แต่มันทำไม่ได้จริงๆ ด้วยราคาทุเรียนการบำรุงรักษา แล้วราคาตลาดมันไม่ได้ แต่ว่าคนส่วนใหญ่ 80%ไม่ได้เข้าใจในเรื่องกระบวนการตรงนี้เลย ลืมคิดไปว่ามันเป็นไปไม่ได้ทุเรียนลูกละร้อย ก็เลยกลายเป็นผู้เสียหายที่ถูกมิจฉาชีพหลอกไป ทุเรียนลูกละหนึ่งร้อย ไม่มีครับ คือโอนไปปุ๊บโดนบล็อก ถ้าเกิดเข้าไปด่า ก็โดนด่าถึงบุพการีกลับมา โหดมาก ซึ่งทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิด แถมเบอร์ที่เขาให้ไว้ในเพจปลอม เป็นเบอร์จริงที่ออฟฟิศ ตอนนี้ที่ออฟฟิศกลายเป็นคนโทรฯ มาร้องทุกข์บ้างโทรฯ มาด่าเสียๆ หายๆ บ้าง ตอนนี้พื้นที่จะยืนอยู่ยากมาก ต้องมานั่งเคลียร์ให้แฟนคลับ หรือลูกค้าของเราเข้าใจว่ามันไม่ใช่ ของเราไม่ขายทางเฟซบุ๊ก ถ้าทางเฟซบุ๊กคือต้องไลฟ์สดจริงๆ ที่สามารถตอบโต้กันได้จริงๆ ปกติถ้าไม่ไลฟ์สดเราจะขายที่ไลน์แอด”

มูลค่าความเสียหาย 100 ล้าน ตอนนี้พวกเราไปทั้งกองปราบมาแล้ว ล่าสุดไป สคบ. ไปชี้แจงและโทรคุยกับตำรวจทุกวัน ดูเส้นทางการเงินของพวกนี้แล้วมีหน้าม้าโดนจับไปหลายคน บางบัญชี เส้นทางการเงิน ภายใน 3-4 เดือนที่ผ่านมาก็ล่อไปหลายสิบล้านแล้ว มันมีเยอะมาก อย่าเรียกว่า 100 เลย ผมว่าว่ากี่ร้อยตอนนี้ แล้วเขาบูสต์โพสต์ด้วย ตอนนี้ผมต้องบอกทุกคนเลยว่า มันมีอยู่ 2 อย่าง มันอยู่ที่จรรยาบรรณของคนทำกับวิจารณญาณของคนซื้อ คือก่อนที่จะโอนเงินสืบให้ชัดอีกหน่อย ตอนนี้จับได้แต่บัญชีม้า ส่วนตัวใหญ่พยายามสืบอยู่ เหมือนอยู่ตะเข็บชายแดนข้ามไป มันอาจจะเป็นเรื่องของกฎหมายหรือเปล่า ซึ่งหน่วยรักษาความยุติธรรมแล้วตำรวจเองเขาก็พยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องช่วยๆ กันเตือน ในการที่โทรฯเข้ามาหลายๆ คนโทรเข้ามาแจ้ง หรืออินบล็อกเข้ามานี่ฉันโดนมาแล้ว ที่ไหวตัวทันก็มี ที่โดนไปแล้วนึกขึ้นได้ว่าเป็นเพจปลอมก็มี ที่โทรเข้ามาต่อว่าจนเราอธิบายให้เขาเข้าใจก็มี โทรเข้ามาต่อว่าแบบที่อธิบายเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง เพราะเขาคิดว่าเขาโทรมาหาเพจปลอม เขาไม่คิดหรอกว่าผมโกง เขาโทรฯ มาว่าเพจปลอม อย่ามาอ้างว่าเธอไม่ใช่เพจปลอม ด่าพ่อ ล่อแม่ น้องที่ออฟฟิศน้ำตาจะซึมเอา แต่ก็มีหลายๆ คน โอนไป 100, 200, 500 เสียค่าโง่ หรือว่าทำบุญไปลูก แต่พอมันรวมๆ กันหลายคนอยากจะบอกว่า เขาได้ไปเป็นร้อยแล้ว มันเยอะมาก กว่าพวกผมขายกันจะได้เห็นเงินล้าน มือแหก ปลอกทุเรียนกันเลือดออกเราได้ทำตามหน้าที่ที่เราทำได้แล้วในการที่ไปแจ้งเรื่องโดนแอบอ้าง เราไม่สามารถดำเนินอะไรได้ต่อ แต่ว่าผู้เสียหายที่มีการโอนเงินไป คุณจะเป็นกำลังสำคัญที่จะไปแจ้งความได้ ให้เกิดการจับได้เพราะว่าการที่ศาลจะออกหมายจับให้ได้ ต้องมีผู้ไปร้องทุกข์”

“เรื่องครอบครัวตอนนี้พยายามมีน้องครับ มีน้องให้น้องโพธิ์ มันเป็นสิ่งที่เราพยายามทำกันมาสักพัก ตอนนั้นผมเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองมากว่าธรรมชาตินี่แหละ ธรรมชาติมันสุดยอดแล้ว เดี๋ยวก็มา น้องโพธิ์ยังมาง่ายเลย 2 ปีผ่านไปยังไม่มา อยากให้แอนท้อง 2 ครั้ง จริงๆ แล้วโพธิ์คือแฝด แต่ว่าไข่ฝ่อไปใบนึง ก็เลยอยากให้แอนท้องอีกสักครั้งนึง ออกมาจะเป็นแฝดธรรมชาติอีกหรือเปล่า หรือคนเดียวก็ไม่เป็นไรขอให้มีอีกคนก็แล้วกัน แต่คราวนี้เวลามันล่วงเลยไปจนอายุนะ เลยยอมพึ่งวิทยาศาสตร์ ให้คุณหมอมาช่วยดีกว่า ได้เวลาใกล้ๆ ที่จะใส่ตัวอ่อนแล้ว หวังว่าคงจะติด แต่ถ้าไม่ติดเลยก็จะเลิกความตั้งใจ แต่จะพยายามให้ถึงที่สุดแล้วนับอายุผมด้วย เดือนหน้าจะ 45 แล้ว ถ้าเกิดช้าไปกว่านี้ ถ้าปีนี้ยังไม่ได้คงต้องจบแล้ว เอาเวลาไปเที่ยวไหม เพราะถ้าเกินไปกว่านี้ ถ้ามีน้อง กว่าน้องจะรู้เรื่อง จำความได้ สนุกกับเราได้ก็ต้องอีกสักพัก”

แอน เผยว่า “เรื่องบ้าน เขาใช้วิธีว่าถ้าเธออยากขาย เดี๋ยวฉันพาเธอไปดูบ้านจัดสรรในกรุงเทพ เธอเลือกมาเลยอันไหนที่มันหรู อันไหนที่เธอคิดว่ามันดีที่สุด เธอไปกับฉัน เขาก็พาไปดูทุกโครงการ มันทำให้เห็นว่าพอไปดูโครงการอื่นๆ แล้วกลับมามองพื้นที่ของเรามีความรู้สึกว่า ถ้าไปซื้อบ้านตรงนู้นจ่ายมากกว่าที่เรามีอยู่อีกแต่เราได้เล็กกว่า เขาก็เหมือนสอนให้รู้ว่าฉันเลือกถูก เรื่องบ้านเงินลบต้องดูอีกที สไตล์บ้านเขาจะเป็นเออ..แล้วแต่ตัวเอง แต่เขาเป็นคนเดินเข้าไปดูบ้าน แล้วเขาเปลี่ยนแล้วก็ไม่บอก เหมือนครับไว้ก่อน แบบ ครับ ขอไปทีให้เรื่องมันจบๆ ไป แล้วมารู้ทีหลังตอนใบเสนอราคามา ถึงขั้นแบบว่าต้องรอเจอกันตอน 5 ทุ่มแบบลูกหลับแล้ว เพราะใบเสนอราคามาที่เราก่อน ก็คุยกัน ถ้าอย่างนี้เธอจะต้องเหนื่อยเป็นสิบเท่า ฉันไม่อยากให้เธอเหนื่อยสิบเท่าเพื่องบประมาณตรงนี้ เรื่องโดนแอบอ้าง มีคนเดือดบางคนมายืนเท้าเอวด่าหน้าบูธว่าที่ฉันซื้อ เพราะฉันคิดว่าชาคริตมันไม่มีวันโกงไง เพราะเธอเป็นดารา เธอไม่มีวันโกงแล้วมีบุกไปที่สวย ที่จันทบุรี บุกไปแม่อยู่ ฉันจะมาเอาทุเรียนแล้วใครที่โดนไปแล้ว สามารถเอาหลักฐานการโอนเงินเข้าไปแจ้งความได้”