เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่บริเวณหน้าอาคารโรงเรียนบ้านวังสายทอง หมู่ 4 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล มีผู้ปกครองผู้ชาวมานิ ได้ขับรถสามล้อพ่วงข้างบรรทุก พา ด.ญ. 4 คน สวมเครื่องแบบนักเรียนเรียบร้อยมาส่งเพื่อให้เข้าเรียนหนังสือในชั้น ป.1 โดยเด็กชาวมานิทั้ง 4 คนดังกล่าวทราบว่าชื่อ ด.ญ. เปีย ด.ญ.ปุย ด.ญ.ฝน และ ด.ญ.เจี๊ยบ อายุระหว่าง 7-10 ปี โดยทั้ง 4 นี้อ่านหนังสือออก คิดเลขเป็น รู้จักพยัญชนะ และรู้จักตัวเลขต่างๆพอสมควร
ทั้งนี้ นางณัฐนันท์ โอมเพียร อายุ 57 ปี ครูจิตอาสา กล่าวว่า ก่อนที่เด็กชาวมานิทั้ง 4 คน จะเดินทางออกมาเข้าโรงเรียนครั้งนี้ ตนได้สอนเด็กทั้ง 4 คนเพื่อปรับพื้นฐานให้โดยการวิธีการอยู่ร่วมกัน สอนภาษาไทย คณิตศาสตร์ และสอนในทุกวิชาเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้เข้าใจโดยเฉพาะจะเน้นความรู้รอบตัว รวมถึงยังพาออกไปทัศนะศึกษาเรียนรู้สิ่งต่างๆที่อยู่นอกป่าทึบและสิ่งต่างๆที่อยู่ในเมืองเพื่อให้เด็กปรับตัวเข้ากับสังคมในโรงเรียนได้ สำหรับชาวมานิกกลุ่มนี้อยู่ป่าลึกต้องเดินทางออกมาโรงเรียนรวมระยะทาง 7 กิโลเมตร ซึ่งเด็กชาวมานิกลุ่มนี้มีความตั้งใจเรียน และมีความขยัน มีความกระตือรือร้น ทางโรงเรียนคาดหวังว่าเด็กชาวมานิกลุ่มนี้จะเรียนจนจบกลับไปสอนน้องๆที่อยู่ในชนเผ่าได้ และต้องการให้เด็กได้รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมคนที่ไม่ดี ทั้งนี้การศึกษาจะเป็นเกราะป้องกันตัวเด็กได้เพื่อ ให้รอดพ้นจากสิ่งต่างๆ ที่ไม่ดีในโลกภายนอก
ด้าน นายภูวนาถ แก้วสุวรรณ ผอ.รร.บ้านวังสายทอง กล่าวว่า ในอดีตนั้น โรงเรียนบ้านวังสายทอง ได้เคยรับน้องๆชาวมานิมาเข้าเรียนที่โรงเรียนบ้านวังสายทองแล้ว แต่หลังจากนั้นเด็กชาวมานิได้หยุดเรียนแลหายไประยะหนึ่ง ก่อนที่จะทราบข่าวว่า จะมีน้องๆชาวมานิจะเข้าเรียนอีกโดยทางโรงเรียนบ้านวังสายทองมีความยินดีต้อนรับน้องๆทุกคนที่จะเข้าสู่รั้วการศึกษาเนื่องจากทุกคนมีสิทธิ์การศึกษาร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ทั้งนี้สำหรับนักเรียนที่มาสมัคร 4 คนนี้นั้น ได้ให้กรอกใบสมัครในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั้ง 4 คน โดยทราบว่ายังมีอีก 4 คนคาดว่าน่าจะติดต่อมาขอสมัครเข้าย้อนหลังต่อไป
สำหรับโรงเรียนบ้านวังสายทองนั้น เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลปีที่ 2 – ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปัจจุบันมีนักเรียนรวมทั้งสิ้น 271 คน (รวมทั้งนักเรียนชาวมานิ 4 คน ) ครูผู้สอน มีความถนัด และความเชี่ยวชาญเรื่องการสอนอยู่แล้ว ในเบื้องต้นครูจะทำการสอน ประเมินผู้เรียนถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล และพื้นฐานการศึกษาเด็ก และการปรับเปลี่ยนแผนการสอนเรื่องการส่งเสริมให้นักเรียนมีการเรียนอ่านเท่าเทียมกันเพื่อให้เด็กทุกคนได้เรียนรู้อย่างดีเยี่ยมต่อไป
ขณะที่ นายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอละงู กล่าวว่า ความจริงแล้ว การศึกษาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กทุกคน น้องๆชาวมานิเหล่านี้ เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ทางอำเภอละงู อำเภอทุ่งหว้า อำเภอควนกาหลง ได้ทำการสำรวจทั้งหมดแล้ว พร้อมทั้งเร่งออกบัตรประจำตัวประชาชน หลังจากนั้น ได้ทำการสำรวจเด็กๆ ทั้งหมดเหล่านี้ที่จะเข้าสู่ระบบการศึกษาต้องขอบคุณทาง ครูณัฐ ซึ่งเป็นครูที่มีหัวใจจิตอาสา และนายคะนึงจันทร์แดง ที่เป็นผู้ดูแลน้องชาวมานิมาโดยตลอด และผู้อำนวยการโรงเรียนวังสายทองเองก็สำคัญที่ให้การศึกษากับน้องๆชาวมานิด้วยการให้เข้าสู่ระบบก่อนส่วนที่เหลือก็จะเข้าตามมา คิดว่าพื้นฐานสำคัญที่สุดที่จะทำให้ชาวมานิไม่มีความรู้สึกว่า ตนเองไม่เป็นพลเมืองชั้นสองอีกต่อไปและเริ่มต้นที่การศึกษานั้นถูกต้องแล้วโดยที่ทาง พชอ. อำเภอ จะต้องดำเนินการ คือ ระบบสาธารณสุข และสิทธิในที่ดินทำกินในโอกาสต่อไป นายอำเภอละงู กล่าว.