เมื่อวันที่ 20 พ.ค. จากกรณี กองทัพเรือ โดยสำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ ได้เปิดโอกาสนำคณะสื่อมวลชนขึ้นเยี่ยมชม แสนยานุภาพ และรับทราบถึงภารกิจอันสำคัญของ เรือหลวงช้าง 792 ซึ่งถือเป็นเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบก ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และนับเป็นเขี้ยวเล็บใหม่ของกองทัพเรือ ณ บริเวณท่าเทียบเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ขณะที่คณะสื่อมวลชน ได้เยี่ยมชมมาถึงจุดบริเวณห้องผ่าตัด หรือห้องปฏิบัติการแพทย์ของเรือ ได้มี จ่าเอกธงชัย พงษ์สา ตำแหน่ง จ่าพยาบาล แผนกพลาธิการและแพทย์ เรือหลวงช้าง เข้ารายงานตัว และเป็นวิทยากร ให้รับทราบในภารกิจด้านการแพทย์ของเรือ และที่ทำให้คณะสื่อต้องทึ่งในตัวจ่าพยาบาลนายนี้ เมื่อพบว่า บนหน้าอกของเครื่องแบบทั้งสองฝั่ง เต็มไปด้วยปีกจากหลักสูตรต่างๆ มากมาย จนไม่มีที่หลงเหลือให้ติดได้อีก

จ่าเอกธงชัย เปิดเผยว่า ปีกที่ติดอยู่บนหน้าอก จำนวน 5 ปีก ซึ่งตนเองได้สำเร็จหลักสูตรมาจากสถาบัน หลักสูตร ”รีคอน” ถือเป็นหลักสูตรการรบพิเศษ แขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบกและจู่โจม นาวิกโยธิน หลักสูตร “การดับเพลิงและกู้ภัยกองทัพเรือ” หลักสูตร “นักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือ มนุษย์กบ” ที่มีขีดความสามารถฝ่าสมรภูมิรบได้ทั้ง 3 มิติ หลักสูตร “วิทยาศาสตร์ใต้น้ำ กองทัพเรือ” ของกรมแพทย์ทหารเรือ และหลักสูตร “ส่งทางอากาศนาวิกโยธิน” ซึ่งถือมีความสามารถในการกระโดดร่ม สนับสนุนกำลังรบทางอากาศ

‘กองทัพเรือ’ โชว์เขี้ยวเล็บใหม่ ‘เรือหลวงช้าง’ เรือยกพลขึ้นบกใหญ่ที่สุดในอาเซียน

“ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจ มาเป็นจ่าพยาบาล อยู่บนเรือรบหลวงช้างลำนี้ ได้มีภารกิจหน้าที่การรบอยู่ในชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (หน่วยซีล) สาเหตุที่พลิกผันเส้นทางชีวิตจากนักรบมาเป็นพยาบาล เพื่อหวังนำความรู้สายการแพทย์ มาช่วยเหลือชีวิตกำลังพลประจำเรือ และผู้ประสบภัยในทะเล ซึ่งการช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ นับมีความสำคัญไม่ต่างกับการรักษาความสงบของชาติ” จ่ารบพิเศษ กล่าว

อย่างไรก็ตาม คณะสื่อมวลชนที่ได้รับฟังเรื่องราว ต่างชื่นชมและทึ่งในความสามารถในการฟันฝ่าด่านสมรภูมิที่ถือว่ โหดทรหดที่สุดมาได้ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น คือ จิตใจอันดีงาม ที่มุ่งหวังจะนำความรู้สายการแพทย์ มาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ทำให้จ่าพยาบาลนายนี้ ได้ถูกขนานนามว่า “นักรบคราบนักบุญ”