เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคก้าวไกล ว่าเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา แกนนำพรรคก้าวไกลมีการประชุมผ่านระบบออนไลน์ หารือถึงการจับขั้วรัฐบาลในฐานะพรรคอันดับ 1 เป็นการหารือกันก่อนที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค จะนำคณะขึ้นรถแห่เดินสายขอบคุณประชาชนทั่วกทม. ในช่วงเย็นวานนี้ ซึ่งกรอบการหารือเบื้องต้น มีหลายประเด็น เช่น ก่อนเลือกตั้งก้าวไกล เคยตกผลึกจนวางโรดเเม็พนโยบายหาเสียงเอาไว้ แต่พอวันนี้พลิกมาเป็นพรรคอันดับหนึ่ง โดยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องมาคุยเรื่องนโยบายต่างๆกันอีกรอบ

โดยแกนนำพรรคยังพูดคุย และประเมินเรื่องนโยบายระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกล เช่น เรื่องที่แกนนำพรรคก้าวไกลเห็นว่าแตกต่างกันชัดเจน คือ เรื่องสวัสดิการ เพราะนโยบายไม่คล้ายคลึงกัน เพื่อไทยเป็นดิจิตอลวอลเล็ต ก้าวไกลคือสวัสดิการถ้วนหน้า เพื่อไทยใช้งบฯเกือบ 5 แสนล้านบาท ก้าวไกลในปีแรกใช้ 2 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งปัญหาคือปีแรกจะเป็นปีงบประมาณที่จัดมาโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แกนนำพรรคก้าวไกล กำลังประเมินกันว่าจะเอาอย่างไร

ขณะเดียวกันยังมีการ หารือถึงนโยบายปฏิรูปกองทัพ แกนนำพรรคก้าวไกลคุยกันว่า ไม่น่ามีปัญหา ก้าวไกลกับเพื่อไทยมีประเด็นที่เห็นตรงกันคือ ต้องยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ซึ่งแกนนำพรรคก้าวไกลมองว่า การยกเลิกเกณฑ์ทหารไม่ใช่เพียงแต่การยื่นกฎหมายเข้าสภาฯ แต่ต้องปรับโครงสร้างภายในกลาโหมด้วย ในฐานะก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จำเป็นจะต้องดูแลรับผิดชอบกระทรวงนี้ แกนนำก้าวไกลพูดคุยกันทำนองว่า ไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องถกกันเท่าไร เนื่องจากมองว่าก็อยู่ในฐานะที่จะมาบริหารหน่วยงานตรงนี้อยู่แล้วในการร่วมรัฐบาล ส่วนเรื่องนโยบายเรื่องมาตรา 112 มีการหารือพร้อมกับ มีการเสนอกันว่าอย่างไรแล้ว การแก้ไขมาตรา112 เป็นการแก้กฎหมาย และต้องเสนอในกลไกของสภาฯ เพราะฉะนั้นก้าวไกลจะเสนอเข้าสภาฯแน่นอน เพื่อให้ไปพูดคุยกันในสภาฯ