สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ว่า อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอเบอรี เป็นผู้นำประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ในกรุงลอนดอน เมื่อเวลาเที่ยงตรงตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ (18.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย)
The National Anthem plays as the King’s Procession from Buckingham Palace to Westminster Abbey begins.
— Royal Central (@RoyalCentral) May 6, 2023
There is a light drizzle of rain, but that isn’t enough to dampen the spirits.#Coronation pic.twitter.com/LOClwLnzpl
ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา ทรงฉลองพระองค์คลุมกำมะหยี่สีแดงอมม่วง โดยฉลองพระองค์คลุมของทั้งสองพระองค์ เป็นองค์เดียวกับที่พระอัยกา สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 เคยทรงในพระราชพิธีเมื่อปี 2480 และองค์เดียวกับที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เคยทรงในพระราชพิธีเมื่อปี 2496 ตามลำดับ
เมื่อสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา พระราชดำเนินด้วยขบวนรถม้าพระที่นั่ง ถึงมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ มีการบรรเลงดนตรี ซึ่งสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ทรงคัดสรรด้วยพระองค์เอง อีกทั้งยังทรงโปรดให้มีการประพันธ์เพลงขึ้นใหม่ถึง 12 เพลง และมีดนตรีแบบกรีกออร์โธดอกซ์ เพื่อรำลึกถึงเจ้าชายฟิลิป พระราชบิดา
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/05/33EH9TT-highres1.jpg)
ต่อจากนั้น สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ทรงพระดำเนินมายังโถงกลาง ของมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ข้างพระราชบัลลังก์ อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอเบอรี ประกาศรับรองฐานะความเป็นกษัตริย์ ของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ต่อแท่นบูชาสูง
สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ทรงถวายสัตย์ปฏิญาณ จะทรงครองราชย์ตามบทบัญญัติของกฎหมายและพิทักษ์ศาสนจักรสหราชอาณาจักร หลังจากนั้น เป็นขั้นตอนการเจิมน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นขั้นตอนซึ่งธำรงความศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ทรงถอดฉลองพระองค์คลุมและประทับบนพระราชบัลลังก์ โดยในขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนเดียว ที่ไม่ให้สาธารณชนและแขกซึ่งเข้าร่วมงานได้ชม โทรทัศน์จะไม่ทำการถ่ายทอดในช่วงนี้
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/05/GettyImages-1252745790.jpg)
อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอเบอรีเทน้ำมันราชาภิเษก ออกจากภาชนะรูปอินทรีทำจากทองคำ ลงบนช้อนราชาภิเษก ก่อนจะเจิมน้ำมันดังกล่าวบนพระนลาฏ (หน้าผาก) พระอุระ (หน้าอก) และที่พระหัตถ์ (มือ) ทั้งสองข้างของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/05/GettyImages-1252745803.jpg)
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/05/GettyImages-1487922381.jpg)
เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนดังกล่าว อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอเบอรีทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย พระภูษาคลุมสีทอง ลูกโลกประดับกางเขน พระธำมรงค์ คทา อันเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ และทรงสวมพระมหามงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ด ให้แก่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 หลังจากนั้น พระองค์ประทับบนพระราชบัลลังก์ ทรงรับการถวายความเคารพจากเจ้าชายวิลเลียมแห่งเวลส์ ต่อจากนั้น สมเด็จพระราชินีคามิลลาทรงรับการสวมพระมหามงกุฎ
Rose Hudson-Wilkin, the Bishop of Dover, presents Queen Camilla with The Queen Consort's Rod.
— Royal Central (@RoyalCentral) May 6, 2023
Lord Chartres presents The Queen with the Sceptre with Cross.#Coronation pic.twitter.com/BK4OzP0JzQ
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/05/GettyImages-1252747286.jpg)
The Archbishop of Canterbury crowns King Charles III.
— Royal Central (@RoyalCentral) May 6, 2023
Cries of God Save The King fill Westminster Abbey.#Coronation pic.twitter.com/MjCZbE7l3T
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/05/33EJ3NY-highres.jpg)
God Save The King.
— Royal Central (@RoyalCentral) May 6, 2023
God save King Charles.
Long live King Charles.
May The King live for ever.#Coronation pic.twitter.com/IVEMtDfkHz
The Prince of Wales pays homage to his father before kissing The King on the cheek.#Coronation pic.twitter.com/YBGxZydNZy
— Royal Central (@RoyalCentral) May 6, 2023
เมื่อประกอบพระราชพิธีเสร็จ สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 ทรงเปลี่ยนไปสวมพระมหามงกุฎอิมพีเรียลสเตท แทนที่พระมหามงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ด แล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยรถม้าพระที่นั่ง พร้อมสมเด็จพระราชินีคามิลลา ในขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค พร้อมด้วยบรรดาเหล่าทัพจากสหราชอาณาจักร และประเทศในเครือจักรภพ เสด็จจากมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ กลับยังพระราชวังบักกิงแฮม และเสด็จออก ณ สีหบัญชร ท่ามกลางพสกนิกรจำนวนมาก ซึ่งรอเข้าเฝ้าชื่นชมพระบารมี.
เครดิตภาพ : AFP, GETTY IMAGES