เรียกว่าสวยวันสวยคืน สำหรับนางเอกสาว “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส” ว่าที่เจ้าสาวคนสวย ที่มีกำหนดเข้าพิธีแต่งงานกับหวานใจพระเอกหนุ่ม “หมาก ปริญ” หลังคบหากันมานานเกือบ 10 ปี ในช่วงปลายปีนี้ โดยล่าสุดมาเปิดใจเล่าจุดเริ่มต้นความรักของทั้งคู่ และอัปเดตการเตรียมงานแต่งทั้ง 2 ประเทศสุดโรแมนติก และเรื่องหนักที่สุดในชีวิตของ คิมเบอร์ลี่ ในรายการ WOODY FM แบบจัดเต็ม

คิมเบอร์ลี่ เผยว่า “เรื่องพลังแง่บวก อันนี้ถามว่าด้านลบมีไหม มีค่ะ แต่ว่าสิ่งที่เห็นมันคงเป็นสิ่งที่เราอนุญาตให้เห็นแหละ สิ่งที่มันลบก็มี แต่ว่าเราแค่ไม่อยากให้ใครมาเศร้ากับเราอะไรอย่างงี้ ก็มีเยอะมากค่ะ ที่รู้สึกหนักที่สุดในชีวิตเลย ก็คือเรื่องคุณพ่อค่ะ เราผ่านมาเพราะครอบครัว แล้วก็เพราะคนรอบข้างเลย จนถึงวันนี้ 6 ปีแล้ว ยังคิดถึงเขาทุกวัน ทุกวินาทีเลยค่ะ แต่มันอาจจะรู้สึกว่า เริ่มทำใจได้ เริ่มเข้าใจมากขึ้น ก่อนหน้านั้นช่วงแรกๆ จะไม่เข้าใจเลย แต่อย่างที่บอก ครอบครัวเราซัพพอร์ตกันและกันมากๆ เลย ถ้าเราอ่อนแอ อีกคนหนึ่งก็จะเข้ามา เพื่อไม่ให้เราแย่ แล้วบางทีก็ร้องไห้ด้วยกัน คือเราจะไม่เก็บค่ะ อยากร้องไห้ก็ร้อง อยากเสียใจก็เสียใจไปเลย อยากนึกถึงเขาก็นึกถึงไปเลย เสียดายเวลาคือช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราถ่ายละครแบบ 2 เรื่องตลอด แล้วก็แทบไม่มีเวลาเจอเขาเลย หรือว่าไปทานข้าวด้วยกัน แล้วอยู่ๆ ก็แบบ… ก็ช็อกค่ะ ยังไม่เคยเล่าที่ไหนเลยนะเรื่องนี้”

“จุดเริ่มต้นเรื่องรัก ถ้าแบบรู้จักเลย ก็เป็นที่ช่อง 3 ค่ะ ตอนที่มาแคสต์เรื่องสี่หัวใจแห่งขุนเขา ตอนแรกที่เจอไม่ได้มอง ไม่ได้สนใจเลย เอาจริงๆ คิดว่าพี่หมากเป็นเกย์ค่ะตอนแรก จริงๆ คือแบบคนนี้ดูแบบสะอาดสะอ้าน ตอนที่รู้ว่าไม่เป็นเกย์ เพราะตอนเริ่มเป็นเพื่อนกัน เริ่มเล่นละครด้วยกัน ก็เห็นว่าเขาแบบมีสาวๆ อะไรอย่างงี้ เวลาอยู่ด้วยกันตอนนี้มีเสียง 2 และ 3 ไหม มีอยู่แล้ว (หัวเราะ) มีเรียก บาร์บี๋ ค่ะ เขาก็เรียกเราว่า บาร์บี๋ เหมือนกัน ถามว่าความสัมพันธ์ของคุณในหนึ่งวันเสมอต้นเสมอปลายไหม No! (หัวเราะ) อันนี้ก็จะ 10 ปีแล้วเนอะ ก็มีเรื่องทะเลาะกันหยุมหยิม ไร้สาระเหมือนกันค่ะ แต่คิมจะเป็นคนที่ชอบเคลียร์เลย แต่พี่หมากจะเป็นคนที่ใจเย็น เก็บไม่พูด แต่ว่าจริงๆ สิ่งที่เรียนรู้ที่คบกันมา 10 ปี บางทีสำหรับเรา เราเป็นคนใจร้อน ต้องเคลียร์ ต้องคุย ต้องพูดตรง มีอะไรออกมาเลย ใช้หัวใจพูดสิ อะไรยังงี้ แต่ว่าก็มาเรียนรู้จากเขานี่แหละ ว่าบางอย่างก็ปล่อยให้เวลามันรักษาบ้างก็ได้ หรือว่าบางอย่างไม่ต้องพูดก็อาจจะดีกว่า ไม่ต้องเจ็บช้ำน้ำใจกัน เราก็ได้ข้อดีจากตรงนั้นมา”

“เขาเองเป็นคนใจร้อนอยู่แล้วค่ะ แต่เขาแค่ไม่พูด เขาจะเป็นคนแบบไม่พูด เราเคยทะเลาะกัน 4-5 วันค่ะ ที่รู้สึกว่าพี่หมากใช่ ก็น่าจะตอนที่เราแบบ Realize ว่า เราไม่ได้อยากจะเสียเวลาในการทะเลาะกันแล้ว รู้สึกว่าทำไปทำไม เรามีแต่อยากจะทำให้มันดีขึ้นในทุกวัน เรามีแต่เห็นอนาคตด้วยกัน แล้วมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ โมเมนต์ที่เราแบบหนัก มองไปก็จะเจอเขา ในทุกๆ เหตุการณ์ แล้วเราก็รู้สึกว่า แบบถึงแม้ว่าจะทะเลาะกัน แต่เราก็ยังเลือกกันและกัน แล้วเราก็เลือกที่จะอยู่ตรงนี้ เลือกที่จะรักกัน แก้ปัญหาด้วยกัน มันก็เหลือแค่ทางเลือกเดียว ก็เลือกที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตกับคนนี้ ก็จะมีงานแต่งเกิดขึ้นในปีนี้ค่ะ เดือนกันยายน หนึ่งงานค่ะ อันนี้จะจัดที่อิตาลี ก็มีแค่ครอบครัวกับเพื่อน ส่วนงานที่ไทย จะจัดในเดือนพฤศจิกายนค่ะ ปีนี้ต้องเตรียมเยอะมาก งานก็เยอะค่ะ แต่ว่าปีนี้คือไม่ได้รับละคร โชคดีที่เสร็จไปหมดแล้วค่ะ แต่เรื่องการดูดวง ใช่เลยเราชอบมาก (หัวเราะ) แต่อาจจะไม่ได้เชื่อ 100% ดูทุกแนวเลย เชื่อไหมไม่เคยถามเรื่องความรักเลยค่ะ ถามเรื่องที่บ้าน ถามเรื่องสุขภาพ ถามเรื่องงาน ส่วนใหญ่เขาจะทักเอง แต่ถ้าทักปุ๊บก็ต้องแก้ (หัวเราะ)”