เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ร.ต.อ.อุดมเกียรติ มาแจ้ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตรมควันในรถยนต์ ภายในโครงการบ้านเอื้ออาทร บางคูวัดหน้าตึก 29 หมู่ 7 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี พ.ต.ท.เสฏฐพงศ์ ทรงกลด รอง ผกก.สส.สภ.เมืองปทุมธานี พ.ต.ท.วิชาญ วันทะมาศ สว.สส.ฯ พร้อมกำลังสืบสวนแพทย์ เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุหน้าตึก 29 พบรถฟอร์ด โฟกัส สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ตรวจสอบภายในรถพบศพ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี ชาว อ.เมือง จ.ปทุมธานี สภาพเสียชีวิตอยู่ในเบาะนั่งคนขับ อีกทั้งยังพบซากสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล นอนตายอยู่เกลื่อนในรถรวม 11 ตัว และบริเวณด้านท้ายรถพบเตาอั้งโล่ มีเศษขี้เถ้า โดยมีถุงถ่านส่วนที่เหลืออยู่ข้างๆ และแกลลอนน้ำมันขนาด 5 ลิตร อีก 1 แกลลอน จึงเก็บและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

นายมนัสพล เสือดี อายุ 44 ปี หัวหน้า รปภ. ให้การว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองกำลังเจรจรเรื่องอุบัติเหตุให้ลูกบ้านที่ป้อมหน้า ระหว่างนั้นได้มีคนมาตาม และบอกว่ามีคนหมดสติอยู่ภายในรถหน้าตึก 29 พร้อมสุนัข แต่หมาน่าจะตายแล้ว เลยทิ้งเรื่องรถชนมาดูทันที เมื่อมาถึงพบรถเก๋งคันสีดำจอดอยู่ ประตูไม่ได้ล็อกจึงบอกให้ลูกน้องทำการเคาะกระจก แต่บุคคลในรถไม่ตอบสนอง จึงเปิดประตูพบผู้หญิงนอนอยู่ มือเท้าเขียว เสียชีวิตแล้วพร้อมสุนัขทั้งหมด 11 ตัว จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ

นางชนิสรา ผาสุก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บางคูวัด กล่าวว่า ผู้เสียชีวิต เรียนจบ ป.ตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำงานรับแปลภาษา พร้อมกับรับเลี้ยงและเพาะพันธุ์สุนัขขาย โดยพักอยู่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ โดยมีการจ้างแม่บ้านมาช่วยดูแลสุนัขที่เลี้ยงไว้ โดยเลี้ยงไว้จำนวนมาก โดยเจ้าตัวนั้นป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว

มารดาผู้ตาย (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) กล่าวว่า ลูกสาวไม่มีอาการป่วยอะไร ทุกอย่างปกติดี โดยลูกสาวทำงานหลายอย่างทั้งอาจารย์สอนพิเศษ นักแปลภาษา โดยตนเองและลูกสาวไม่ได้ติดต่อกันสักพักแล้วและแยกกันอยู่ โดยลูกสาวตนเองจะมีแม่บ้านช่วยเลี้ยงสุนัขและทำงานบ้าน โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา แม่บ้านได้โทรฯ ไปแจ้งว่าเสียชีวิตดังกล่าว

พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานแวดล้อม และตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ อีกทั้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อใช้ประกอบคดีและให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำร่างผู้เสียชีวิตส่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อรอญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป