กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI นำสำนวนคดีฟอกเงิน คดีพิเศษ ที่ 36/2563 ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับรายการทรัพย์สินจากคดีมูลฐานแชร์ Forex-3D โดยมีผู้ต้องหารวม 9 ราย ประกอบด้วยผู้ต้องหาในเรือนจำ 7 ราย และผู้ต้องหาที่อยู่ด้านนอก 2 ราย คือ นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดงชายชื่อดัง และ นายธีร์ภัสกร หรือ มาร์ค กิมวังตะโก สั่งฟ้องต่ออัยการ หลังพนักงานสอบสวนเลื่อนรับฟังคำสั่งทางคดีไปเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา เนื่องด้วยคำสั่งของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้พนักงานสอบสวนตรวจความเรียบร้อยครบถ้วนของสำนวนและสอบประเด็นเพิ่มเติม เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 พ.ค. ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ถึงคิวดาราหนุ่ม? DSI หอบสำนวน19แฟ้มส่งอัยการสั่งฟ้อง ‘ปราปต์ปฎล’ ฟอกเงินแชร์Forex :

เกี่ยวกับเรื่องนี้ บ่ายวันเดียวกัน (3 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก หลังใช้เวลาพบพนักงานอัยการที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นานกว่า 30 นาที นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ได้ส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด ผ่านรองอัยการสูงสุดที่รับผิดชอบงานของสำนักงานคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาในฐานะคดีสำคัญ ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป โดยนัดฟังคำสั่งคดีครั้งแรก วันที่ 6 มิ.ย. 66 เวลา 10.00 น.

จากนั้น นายปราปต์ปฎลลงมาให้สัมภาษณ์ระบุว่า วันนี้มาพบกับอัยการ และทางอัยการก็ได้เลื่อนนัดฟังคำสั่งของอัยการว่าฟ้องไม่ฟ้องเป็น วันที่ 6 มิ.ย. 66 เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ตนถือว่าเป็นที่น่าพอใจแล้ว ว่าทุกอย่างมันเป็นไปตามกระบวนการความถูกต้อง ขั้นตอนต่อไปก็จะไปรวบรวมเอกสาร แล้วเขียนคำร้องขอความเป็นธรรม แต่ที่อยากจะกล่าวคือ การทำงานของดีเอสไอมีเงื่อนงำมาตลอด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เคยออกมาแจ้งว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงหรือฟอกเงินในคดี Forex-3D นี้เลย แต่สิ่งที่ทำให้ถูกดึงเข้าไปเชื่อมโยงนั้นมาจากการที่ไปขับรถแอสตัน มาร์ติน ย้ายจากคอนโดฯ ของน้องที่ป่วยไปไว้ที่บ้านเพื่อน ตนก็ยอมรับว่าทำจริงตามคำไหว้วาน แต่ทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พยายามซักถามให้ตนต้องทราบว่ารถคันดังกล่าว ถูกซื้อมาด้วยเงินของนายอภิรักษ์ ที่หลอกลวงคนอื่นๆ มาตอนที่ไปแจ้งข้อกล่าวหา แต่รถคันดังกล่าวถูกอายัดไว้ตั้งแต่ปี 2563 ถ้ามั่นใจว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องจริงๆ ทำไมไม่แจ้งตั้งแต่ตอนนั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้ทราบด้วยในเมื่อรถคันดังกล่าว ก็มีคนใช้มานานถึง 2 ปีแล้ว ตนจะเข้าใจว่าเป็นรถส่วนบุคคลของคนคนนั้น ก็เป็นเรื่องที่วิญญูชนทั่วไปคิดได้

นายปราปต์ปฎล ระบุอีกว่า ประเด็นต่อมา ผู้ต้องหาที่ 5 ที่เป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว ส่วนตนเป็นผู้ต้องหาที่ 6 ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าฟอกเงินก่อนจำเลยที่ 5 ซึ่งมีการปฏิบัติที่จำกัดสิทธิผู้ต้องหาหลายอย่าง อย่างการบังคับให้เซ็นรับทราบข้อกล่าวหาในเรือนจำ และไม่มีการ สอบสวนรายละเอียด ทั้งที่การให้การของจำเลยที่ 5 น่าจะเกี่ยวพันกับคำให้การของตน ที่จำเลยที่ 5 เป็นผู้ร้องขอให้ตนเคลื่อนย้ายรถคันดังกล่าว เรื่องมีเพียงแค่นี้ หลังจากนั้นจนได้สืบหาหลักฐานเอกสารจนพบว่ามีใบซื้อขายรถคันดังกล่าว อยู่กับเล่มทะเบียนป้ายแดง และยังพบความผิดปกติ ที่ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้ายึดอายัดทรัพย์ในคอนโดฯ แต่กลับออกหนังสืออายัดทรัพย์ในภายหลัง จึงมีความรู้สึกว่าหน่วยงานนี้ทำงานไม่โปร่งใส และออกข่าวให้ประชาชนเข้าใจตนในทางที่ผิดและไม่เคยออกมาแก้ข่าวให้แต่อย่างใด

อีกประเด็นหนึ่งคือ เรื่องทรัพย์สินที่ถูกอายัดในคดีฉ้อโกง Forex-3D ซึ่งศาลได้สั่งอายัดส่งให้ ปปง.หมดแล้วตามเอกสาร ซึ่งตนมีหลักฐานว่า ทรัพย์สินที่ ปปง. บางส่วนไม่ตรงกัน เช่น ยึดกระเป๋าหรูที่ยึดไป แต่กระเป๋าที่ไปอยู่ ปปง. ไม่ใช่ของจริง แต่เป็นของปลอม และมีหลายรายการที่ไม่ตรงกับบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งทรัพย์เหล่านี้ควรจะนำไปดำเนินการขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เสียหาย Forex-3D กว่า 9,000 คน ดังนั้น ขณะนี้ ผู้เสียหายทั้งหลายควรจะต้องไปตามเรื่องกับทาง ปปง.ว่าดำเนินการขายทอดตลาดนำเงินมาเยียวยาไปถึงขั้นใด และตนได้ตั้งศูนย์รับเรื่องเหล่านี้ เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายในการเรียกร้องความเป็นธรรมและเงินจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินเหล่านี้มาบรรเทาผู้เสียหาย

นายปราปต์ปฎล กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้เป็นความพยายามดิสเครดิตตนในช่วงใกล้เลือกตั้ง ยอมรับว่ามีผลกระทบทางการเมือง เพราะตนเองไปอยู่พรรคที่มีนโยบายปราบโกง ไปปราบทุจริต แต่ตัวเองยังมีคดีอยู่ ทำให้มีประชาชนบางส่วนตั้งแง่ในเรื่องนี้ แต่นั้นก็เป็นแรงผลักดันทำให้ตนต้องต่อสู้เพื่อให้ความจริงปรากฏ โดยตนไม่หวังผลทางการเมือง อีกทั้งเพราะเหตุที่ตนถูกดำเนินคดีฟอกเงินและได้รับคำชวนจากหัวหน้าพรรค ตนจึงตัดสินใจเข้ามาลงเล่นการเมืองทั้งที่ก่อนหน้านี้ตนไม่ได้สนใจการเมืองเลย เพราะเชื่อว่า การที่ได้มาทำตรงนี้จะเป็นอีกช่องทางในการต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมในสังคม ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ตนจะต่อสู้และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ถูกฉ้อโกงและไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่รัฐ

นายปราปต์ปฎล กล่าวย้ำว่า ตนขอย้ำกับพี่น้องสื่อมวลชนว่า คดีนี้มีเงื่อนงำ ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอบางคนที่มีประโยชน์จากการกระทำกับตน ตนไม่ได้ว่าทั้งระบบ หรือองค์กร เพราะฉะนั้น จะไม่ให้เรื่องมันเงียบไปเฉยๆ หากหน่วยงานต้องการจะกู้หน้าว่าเป็นองค์กรบริสุทธิ์ยุติธรรม ก็ต้องให้ออกมารับผิดชอบกับตน และกำจัดข้าราชการทุจริตที่เปรียบเสมือนเป็นเนื้อร้ายในองค์กร หากตนกระทำผิดจริงคงจะเงียบเหมือนหลายคน แต่ยืนยันว่า ตนไม่ผิด เมื่อถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องก็จะต่อสู้ให้ถึงที่สุด ไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบเด็ดขาด และขอให้สื่อมวลชนติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อทำความจริงให้ปรากฏ