สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ว่า กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลรายงานผู้ป่วยยืนยันจากโรคโควิด-19 เป็นสถิติรายวันสูงสุด 10,947 คน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แม้สถิติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 10,313 คน แต่สถิติเฉพาะตั้งแต่เข้าสู่เที่ยงคืนของวันพุธจนถึงช่วงค่ำของวันเดียวกัน สูงถึง 7,386 คนแล้ว
ขณะที่สถิติผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 ในอิสราเอล นับตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว มีจำนวนอย่างน้อย 1,082,981 คน ยังมีผู้ป่วยต้องรักษาตัวอยู่ในระบบอย่างน้อย 86,388 คน และสถิติผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่อย่างน้อย 7,086 ราย
อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ป่วยหนักสะสมลดลงจาก 750 คน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ลงมาอยู่ที่ 710 คน เมื่อวันอังคาร และลดลงอีกเหลือ 675 คน เมื่อวันพุธ ขณะที่อิสราเอลเป็นประเทศแรกของโลก ซึ่งฉีดวัคซีนเข็มที่สาม เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชน เริ่มจากกลุ่มผู้สูงอายุ ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา แล้วค่อยขยายเกณฑ์การรับบูสเตอร์อย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน มีประชาชนได้รับบูสเตอร์แล้วมากกว่า 2.3 ล้านคน
ด้านนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ ยังคงเชื่อมั่นว่า การฉีดวัคซีนให้มากที่สุด รวมถึงการฉีดวัคซีนเข็มสามให้ได้มากที่สุด จะช่วยตัดวงจรการแพร่ระบาดได้ ควบคู่ไปกับมาตรการป้องกันส่วนบุคคล รวมถึงการรักษาระยะห่าง และการสวมหน้ากากอนามัย
ทั้งนี้ เบนเนตต์ลงพื้นที่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง ในภาคใต้ของประเทศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดภาคการศึกษาใหม่ ภายใต้มาตรการควบคุมทั้งการสวมหน้ากากอนามัย และการตรวจคัดกรอง โดยผู้นำอิสราเอลให้คำมั่นว่า เขาจะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้เด็ก 2.5 ล้านคนสามารถเรียนในโรงเรียนได้อย่างปกติ แต่ไม่สามารถกล่าวอย่างเจาะจงได้ว่า "จะเป็นไปได้นานแค่ไหน".
เครดิตภาพ : AP