จากกรณี น.ส.ออม (นามสมมติ) เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. โดยอ้างว่า ตนทำงานเป็นเด็กเอ็นเตอร์เทน ถูกว่าจ้างไปชงเหล้าให้ลูกค้าในโรงแรมหนึ่งหนึ่งย่านถนนจรัญสนิทวงศ์ แต่ปรากฏว่า มีชายที่ “นายเจต” อ้างว่าเป็นทีมงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยโชว์ภาพถ่ายขณะนั่งร่วมโต๊ะ จากนั้นก็ยึดเอาโทรศัพท์มือถือของเด็กเอ็นทุกคน ก่อนจะบังคับผู้เสียหายขึ้นไปบนห้อง ใช้ปืนข่มขู่ให้ถอดเสื้อผ้ามีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยมีการถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์ผู้เสียหาย

หลังเกิดเหตุ นายเจต ยังสั่งให้ผู้เสียหายและเด็กเอ็นกลุ่มเดิม เข้ามาให้บริการอีกเรื่อย ๆ และเมื่อจ่ายเงินค่าจ้าง ก็ยังให้เพียงบางส่วน ทั้งยังส่งข้อความและภาพการทำร้ายร่างกายบุคคลอื่น ๆ มาข่มขู่อีก จนฝ่ายผู้เสียหายทนไม่ไหว เดินทางมาร้องทุกข์กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ด้วยตนเอง เพื่อให้ทราบถึงพฤติกรรมของ นายเจต ดังกล่าว

โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้สั่งการให้ สน.บวรมงคล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ ดำเนินการสืบสวนนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการกล่าวอ้างโดยใช้การถ่ายภาพกับบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อใช้ในการข่มขู่ให้ผู้อื่นเกรงกลัว อีกทั้งผู้ต้องหายังใช้อาวุธปืนโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ภายหลังฝ่ายสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ “นายวทัญญู วิริยะชโยทัย” จึงได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญาตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 66 ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจว่าตนเป็นบุคคลอื่น ซึ่งได้กระทำโดยมีอาวุธปืน”

ต่อมาวันที่ 26 เม.ย. 66 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายวทัญญู ได้ที่บริเวณบ้านพักในพื้นที่ ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย โดยพบอาวุธปืน จำนวน 3 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้จับกุม นายวทัญญู ในความผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร” จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังสะพุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนที่พนักงานสอบสวน สน.บวรมงคล ได้อายัดตัว นายวทัญญู ตามหมายจับ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติของ นายวทัญญู เคยต้องหาคดีอาญามาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2555 ถูกดำเนินคดีในข้อหา ไม่มีสิทธิสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ ที่ สภ.เมืองนนทบุรี และครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2564 ถูกดำเนินคดีในข้อหายักยอก ที่ สน.ตลิ่งชัน