จากกรณีช่วงเย็นของวานนี้ วันที่ 26 เม.ย. เกิดพายุฤดูร้อน พัดถล่มพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พัดหลังคาบ้าน ต้นไม้ล้มทับบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง อาคารสถานที่ทั้งหน่วยงานรัฐและของประชาชน อีกทั้งพื้นที่การเกษตร ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ส่งผลให้ไฟฟ้าดับทั้งอำเภอนั้น
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/04/S__2580579.jpg)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 เม.ย. เทศบาลตำบลวังกะ พร้อมฝ่ายปกครองอำเภอสังขะบุรี เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น บ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน โดย นายวิจารณ์ กุลชนะรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังกะ อ.สังขละบุรี ร่วมลงพื้นที่ ทำการเก็บหลักฐานถ่ายภาพ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายมาลงทะเบียนเพื่อรับความช่วยเหลือเยียวยา จากการสำรวจเบื้องต้น มีบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายประมาณ 53 หลังคาเรือน แบ่งเป็นฝั่งเทศบาลตำบลวังกะ 31 หลังคาเรือน โดยเกิดความเสียหายมากที่สุดในพื้นที่ซอยวัดศรีสุวรรณ และฝั่งชุมชนบ้านวังกะ ชุมชนไทยรามัญ บริเวณชุมชนดงสัก ชุมชนสะพานมอญ รวมกว่า 22 หลัง แต่ละหลังได้รับความเสียหายตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงได้รับความเสียหายทั้งหลัง ซึ่งทางเทศบาลฯ พร้อมให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการ โดยวันที่ 1 พ.ค. 66 จะมีการนำเข้าวาระที่ประชุมของคณะกรรมการช่วยเหลือ เพื่อจะเร่งให้ความช่วยเหลือให้เร็วที่สุด เนื่องจากในพื้นที่เข้าสู่ฤดูฝน
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/04/S__2580576.jpg)
นายวิจารณ์ เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลวังกะยังคงระดมทีมงานเพื่อตัดต้นไม้ที่ล้มขวางเพื่อเปิดเส้นทางการจราจร และเร่งตัดต้นไม้ที่ล้มทับบ้านเรือนประชาชน และสถานที่ราชการ อาทิ โรงเรียนอนุบาลสังขละบุรี ที่โดนพายุพัดศาลาหน้าโรงเรียนพังทั้งหลัง และมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บถูกศาลาทับ 1 ราย ได้นำส่งโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เนื่องจากอาการรุนแรงกระดูกหักหลายแห่ง กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 ได้รับความเสียหาย พายุพัดศาลาพัง 1 หลังเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นเทศบาลตำวังกะ ขอให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนในพื้นที่ของเทศบาลฯ มาลงทะเบียนเพื่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่เทศบาลวังกะ
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/04/S__2580569.jpg)
ด้าน น.ส.พรเจริญ ปุณณะการี อายุ 20 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเห็นพายุที่รุนแรงเช่นนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต และเนื่องจากบ้านหลังนี้อยู่ในทิศทางลมพายุ และติดแม่น้ำสามประสบ หัวสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ จึงได้รับความเสียหายมาก หลังคาบ้านพัดหายไปทั้งหลัง ช่วงเกิดเหตุตนและพ่อ แม่ พร้อมหลานๆ นั่งอยู่ในบ้าน แต่หลังจากที่หลังคาบ้านปลิวไปกับแรงลม ตนรีบวิ่งเก็บสิ่งของสำคัญในการทำงาน และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ ออกจากบ้าน เนื่องจากฝนตกหนัก พร้อมวิ่งไปอาศัยบ้านของเพื่อนบ้านหลบพายุและฝน ต้องไปอาศัยบ้านญาตินอน คงต้องอาศัยนอนเช่นนี้อีกสักระยะจนกว่าจะซ่อมหลังคาบ้านเสร็จ ซึ่งได้แจ้งขอความช่วยเหลือกับเทศบาลเรียบร้อยแล้ว.
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/04/S__2580575.jpg)
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/04/S__2580572.jpg)
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/04/S__2580580.jpg)